![สจล. ยืนหยัดเคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์ เปิดตัว KMITL GO FIGHT COVID-19 ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 พร้อมเผยมาตรการเยียวยานักศึกษา]()
กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัวศูนย์ KMITL GO FIGHT COVID-19 ศูนย์รวมองค์ความรู้ และ
นวัตกรรมในด้านการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรค
โควิด-19 บริหารงานโดยสำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) เพื่อตอบสนองความต้องการความช่วยเหลือของโรงพยาบาล และหน่วยงานทุกภาคส่วนในด้านการพัฒนา
นวัตกรรม และองค์ความรู้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 โดยศูนย์รวม
นวัตกรรมดังกล่าวจะทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ และส่งต่อ
นวัตกรรมให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่สนใจ โดยมี
นวัตกรรม อาทิ ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) โมเดลเครื่องช่วยหายใจ (GO RES) ประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น ทั้งนี้ ศูนย์รวม
นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด (KMITL 60 th Year: Go Beyond the Limit) นอกจากนี้ สจล. ยังเผยมาตรการช่วยเหลือนักศึกษาท่ามกลางการเรียนในยุคโควิด- 19 เพื่ออำนวยความสะดวกให้การเรียนรูปแบบออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น
สำหรับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม และรับคำแนะนำด้านการพัฒนา
นวัตกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) โทร. 091-812-0416 หรืออีเมล kannika.li@kmitl.ac.th
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 ในประเทศไทย ทำให้โรงพยาบาล และหน่วยงานต่างๆ ต้องรับมือกับผู้ป่วย และผู้ที่มีอาการเฝ้าระวังโรคจำนวนมาก นำมาซึ่งความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจน
นวัตกรรมด้านการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรค
โควิด-19 ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที สจล. จึงออกมาตรการเชิงรุกในการเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางด้าน
นวัตกรรม โดยการเดินหน้าเปิดตัว KMITL GO FIGHT COVID-19 โดยสำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือโรงพยาบาล และหน่วยงานต่างๆ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของ
โควิด-19 โดยศูนย์ดังกล่าวเตรียมส่งมอบองค์ความรู้ด้าน
นวัตกรรมที่พร้อมส่งต่อให้โรงพยาบาล และหน่วยงานที่สนใจจำนวนมาก
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวเพิ่มว่า ศูนย์รวม
นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 ภายใต้สำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) ถูกจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจ เพื่อสนองมาตรการเชิงรุกของ สจล. ในการเป็นผู้ช่วยเหลือด้าน
นวัตกรรม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 โดยมีทีมนักพัฒนางานวิจัยและ
นวัตกรรม สจล. ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านองค์ความรู้การนำ
นวัตกรรมต่างๆ ไปใช้ รวมถึงการผลิตเพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่มีความต้องการ โดยศูนย์ KMITL GO FIGHT COVID-19 มี
นวัตกรรมที่พร้อมใช้งาน ได้แก่ ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) โมเดลเครื่องช่วยหายใจ (GO RES) และประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ
ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room)
สำหรับ
นวัตกรรมห้อง Negative pressure เป็น
นวัตกรรมที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้เป็นห้องคัดกรองเชื้อโรค โดยหลักการทำงานของห้องดังกล่าว จะปรับความดันภายในห้องให้เป็น Negative หรือมีแรงดันต่ำกว่าห้องข้างเคียง เพื่อไม่ให้อากาศซึ่งอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนภายใน ไหลออกมาสู่ห้องภายนอก ซึ่งโดยปกติ ห้อง Negative pressure มีต้นทุนการสร้างอยู่ที่ห้องละไม่ต่ำกว่า 800,000 บาท แต่
นวัตกรรม Negative Pressure โดยความร่วมมือของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. และศิษย์เก่า รวมถึงได้รับคำปรึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ สจล. สามารถสร้างห้องดังกล่าวได้ในต้นทุนที่ต่ำลง เพียงประมาณ 150,000 – 200,000 บาทต่อห้อง โดยเบื้องต้น สจล. ร่วมกับกรุงเทพมหานคร อยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการสร้างห้อง Negative pressure เพื่อใช้คัดกรองเชื้อโรค ให้แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลจำนวน 5 ห้อง พร้อมใช้งานได้ทันที และโรงพยาบาลสิรินธรจำนวน 3 ห้อง โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในต้นเดือนเมษายน 2563
โมเดล
นวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจ (GO RES)
มีแนวคิดการผลิตในปริมาณมาก เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลที่มีความต้องการใช้งานกับผู้ป่วย
โควิด-19 ในระดับที่มีอาการติดเชื้อในปอด ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจดังกล่าว อีกทั้งจำลองคุณสมบัติของเครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ในโรงพยาบาล ให้อยู่ในขนาดที่พกพาได้ เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาล และผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้งาน สามารถนำไปใช้เองได้ที่บ้าน อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต โดย
นวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจที่ผลิตขึ้นโดย หลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาท ในขณะที่เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงพยาบาลมีต้นทุนการผลิตถึงเครื่องละเกือบ 1 ล้านบาท
ประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI คัดกรองแม่นยำ พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ
นวัตกรรมประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมด้วยระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ โดย สจล. พัฒนาเครื่องมือดังกล่าวขึ้นเพื่อคัดกรองบุคคลและพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าหรื อออกจากสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น สนามบิน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น อีกทั้งการคัดกรองด้วยระบบ AI จะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้คนตรวจ ซึ่งอาจเกิดการแพร่เชื้อระหว่างผู้ใช้งานและผู้คัดกรองได้ ทั้งนี้ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบิน สจล. ได้นำร่องใช้งาน
นวัตกรรมดังกล่าวเพื่อคัดกรองบุคคลก่อนเข้าอาคาร และพร้อมต่อยอด
นวัตกรรมดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ในวงกว้าง
“นอกจากนี้ ในด้านของการเรียนการสอนที่มีมาตรการปรับรูปแบบเป็นออนไลน์ทั้งหมด เพื่อสอดรับกับมาตรการลดระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ของกระทรวงสาธารณสุข โดย สจล. ได้ดำเนินการติดตามผลการเรียนในรูปแบบออนไลน์ และรับฟังปัญหาของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง และได้ออกมาตรการช่วยเหลือนักศึกษา อาทิ ประกันสุขภาพ ฯลฯ ที่จะทยอยประกาศเพื่อเป็นการช่วยนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ศูนย์รวม
นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 พร้อมเดินหน้าพัฒนา
นวัตกรรมต่างๆ และส่งต่อองค์ความรู้ด้านการพัฒนา
นวัตกรรม เพื่อช่วยสังคมก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
โควิด-19 ภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด (KMITL 60 th Year: Go Beyond the Limit) สำหรับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม และรับคำแนะนำด้านการพัฒนา
นวัตกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) โทร. 091-812-0416 หรืออีเมล kannika.li@kmitl.ac.th
![]()
![]()