กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ในสถานศึกษาสังกัด กทม. เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในช่วงเปิดภาคเรียน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังคงมีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อของนักเรียนและบุคลากรภายในสถานศึกษาว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา ได้เตรียมความพร้อมการสอนผ่านระบบออนไลน์ในสถานศึกษาสังกัด กทม. โดยสำรวจและเตรียมความพร้อมในการเรียนออนไลน์ ทั้งความพร้อมของครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมถึงสำรวจความพร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาของกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันได้เตรียมจัดกระบวนการเรียนการสอนผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ การสอนสดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งครูสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนได้ ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Microsoft Team Google Classroom และ Zoom อีกทั้งครูผู้สอนจัดทำไฟล์วิดีโอการสอน เพื่อให้นักเรียนใช้เรียนรู้ด้วยตนเองและสามารถทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลา
สำหรับในรายวิชาที่เป็นวิชาปฏิบัติหรือต้องมีกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์ ให้ปรับการเรียนการสอนเป็นแบบ project-based หรือ research-based โดยมอบหมายงานผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอดจนให้ประเมินผลผู้เรียนเป็นระยะ โดยป้อนข้อมูลกลับผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ให้ครูผู้สอนรายงานผลต่อผู้บริหารสถานศึกษา และโรงเรียนรายงานผลให้สำนักการศึกษาทราบเป็นระยะ ส่วนผู้ปกครองและนักเรียนที่อาจไม่มีความพร้อมในการเรียนการสอนออนไลน์ สำนักการศึกษาได้มีแนวทางรองรับ โดยจะจัดการเรียนการสอนผ่านทีวีดิจิทัลและจัดทำคู่มือการเรียนให้นักเรียนอีกทางหนึ่ง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้นยังได้เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานศึกษาสังกัด กทม. โดยกำชับให้สถานศึกษาสังกัด กทม. จัดให้มีจุดคัดกรองนักเรียนและผู้ปกครอง งดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มทุกกิจกรรม รวมถึงจัดทำช่องทางการติดต่อสื่อสารที่ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถติดต่อกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนได้ในช่วงปิดสถานศึกษา ตลอดจนกำชับมาตรการหากเกิดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงเรียนหรือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครหรือผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงเรียน ให้กักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน ตามแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด