กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--สภากาชาดไทย
เที่ยวนี้อีก 1.9 แสนลิตร เร่งแจกจ่าย 76 จังหวัด ทั่วประเทศ ไทยเบฟ กระทรวงมหาดไทย และสภากาชาดไทย ร่วมกู้วิฤกติไวรัส COVID-19 ส่งมอบแอลกอฮอล์เพิ่มอีกล็อตใหญ่ เร่งกระจาย แจกจ่ายให้กับชุดปฎิบัติการจังหวัด และหน่วยงานบริการสาธารณสุข ทั่วประเทศ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ถือเป็นวิกฤติระดับโลกหรือสามารถที่จะเรียกมันได้มันคือสงครามไวรัสที่ทุกคนต้องพร้อมเผชิญหน้า
และก้าวผ่านมันไปให้ได้
และในวิกฤติก็ยังคงมองเห็นเรื่องที่ดีในเรื่องของพลังน้ำใจทิ่ยิ่งใหญ่
ที่เราได้เห็นจากความร่วมมือจากหลายๆ ภาคส่วนที่เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อที่จะก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน
กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ออกมาขานรับนโยบายโดยทันที หลังจากภาครัฐ
โดย กรมสรรพสามิต ได้ออกประกาศส่งเสริม
และสนับสนุนการใช้แอลกอฮอล์มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัส
COVID-19 เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
และเร่งผลิต ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
เพื่อนำมาสนับสนุนการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส COVID -19 ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล
หน่วยงานสาธารณสุข ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่าง บำราศนราดูร กองทัพเรือ
รพ.ราชวิถี รพ.ศิริราช รพ.จุฬาฯ รพ.พระมงกฎ และโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ดูแลในเรื่องนี้โดยตรงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์
สำหรับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
COVID-19 ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั่วประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง
และล่าสุดได้มีการส่งมอบเพิ่มอีก 1.9 แสนลิตร ด้วยการผสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และสภากาชาดไทย ที่จะกระจายไปยังชุดปฎิบัติการ และหน่วยบริการสาธารณสุขครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ(รายละเอียดศูนย์สภากาชาด 76 จังหวัด ตามเอกสารแนบ)
โดยมี นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย รับมอบแอลกอฮอล์ จาก นายประวิช สุขุม ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร ผู้แทน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมเร่งกระจายออกไปยังจังหวัดต่างๆ ตามแผนต่อไป
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “ภายใต้มาตรการกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ในการรับผิดชอบในการดูแลแต่ละจังหวัดในการป้องกัน แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในการแก้ปัญหาแล้วก็ประเมินไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ ก็คือพี่น้องประชาชนในเรื่องของการสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดภาวะเสี่ยง หรือคนที่มีภาวะเสี่ยงต้องมีการแยกตัวออกมา นอกจากนั้นภาคเอกชนทุกภาคส่วนก็มีส่วนร่วมได้ในการที่สนับสนุนการทำงานของภาครัฐในเรื่องของหน่วยงานทางการแพทย์ ทางสาธารณสุขที่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือในการตรวจพี่น้องประชาชน ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือสังคม ยับยั้งการแพร่ระบาดให้ยุติลง สำหรับแอลกอฮอล์ที่ได้รับมอบในวันนี้ เราก็จะกระจายต่อไปให้ทุกจังหวัด และส่งต่อไปในส่วนของสาธารณสุขจังหวัด และส่งให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องนำไปดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบ โดยผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดก็จะเป็นผู้กำกับดูแลสถานการณ์ สามารถวิเคราะห์ว่าที่ไหนมีความจำเป็นต้องใช้เป็นพิเศษ ต้องคำนึงถึงความแตกต่างของสถานการณ์ ภาคเอกชนสามารถที่จะให้การสนับสนุนการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข ก็จะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อสถานการณ์ในช่วงนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทางไทยเบฟ เป็นอย่างยิ่งที่เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญ ที่ส่งมอบอาวุธชิ้นสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสโควิด เพราะว่าแอลกอฮอล์ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือจัดการสำคัญในการป้องกัน เราต้องล้างมือ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการป้องกันดูแลตัวเองเจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่กลายเป็นกลุ่มเสี่ยง”
ทางด้าน นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “เราได้รับการสนับสนุนแอลกอฮอล์จำนวน 190,000 ลิตร จาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนอกจากการส่งมอบในครั้งนี้ทราบว่า ไทยเบฟ ได้มีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ไปยัง โรงพยาบาลสนาม หน่วยงานบริการสาธารณสุขทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงสนามบิน และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่หลายๆ ภาคส่วนจะมาร่วมพลังกันสู้กับสงครามไวรัสในครั้งนี้ และพวกเราจะต้องชนะ โดยหลังจากที่เราได้รับมอบแอลกอฮอล์จากไทยเบฟ ทางสภากาชาดไทยจะเป็นศูนย์รวมในการกระจายแอลกอฮอล์ไปยังจังหวัดต่างๆ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งมอบไปที่สำนักเหล่ากาชาดทุกจังหวัด จำนวน 2,500 ลิตร ต่อจังหวัด และส่งมอบให้กับศูนย์ราชการทุกจังหวัด จังหวัดละ 500 ลิตร ซึ่งจะเร่งดำเนินการกระจายไปแต่ละจังหวัดให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยกันลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 นับเป็นการเสริมทัพ ช่วยสร้างความมั่นใจ กำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ที่ร่วมกันระดมกำลังช่วยกันอย่างเต็มที่ ด้วยความหวังว่าจะยุติสถานการณ์นี้ได้โดยเร็ว”
ในสภาวะวิกฤติแบบนี้ ถือเป็นอีกเรื่องที่ดีที่ทุกคนจะร่วมพลังเพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้ คนไทยไม่ทิ้งกัน