![สจล. ผนึก กทม. ส่งมอบอีก 3 นวัตกรรม ช่วยผู้ป่วยโควิด-19 เครื่องช่วยหายใจ – ห้องความดันลบ - ตู้ตรวจเชื้อ]()
กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ร่วมบริจาค แปลงน้ำใจเป็น
นวัตกรรมได้ที่
ธนาคารกรุงไทย ชื่อ
บัญชี สจล.
นวัตกรรมสู้ COVID-19 เลขที่
บัญชี 693-031-750-0
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ศูนย์รวม
นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 ส่งมอบ 3
นวัตกรรมทางการแพทย์ สู้
โควิด-19 ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติขนาดเล็ก (Mini Emergency Ventilator) ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative Pressure Room) และตู้ Swab Test ปลอดเชื้อ ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน และคาดว่าหลังจากนั้นจะนำมาใช้งานกับผู้ป่วย
โควิด-19 ต่อไป โดย สจล. เตรียมต่อยอดการผลิตและแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ อีกทั้งพร้อมส่งต่อต้นแบบและคำแนะนำในการผลิต
นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ในต้นทุนต่ำ ให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่สนใจ นำไปผลิตใช้ได้เองตามความต้องการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 ทั้งนี้ สจล. ยังเปิดระดมทุนบริจาคเพื่อต่อยอดการผลิตและแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยหากประชาชนสนใจสามารถร่วมบริจาคได้ที่
ธนาคารกรุงไทย ชื่อ
บัญชี สจล.
นวัตกรรมสู้ COVID-19 เลขที่
บัญชี 693-031-750-0
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
โควิด-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ ศูนย์รวม
นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 โดยสำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) จึงเดินหน้าพัฒนา
นวัตกรรมทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งผลิตและแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศที่มีความต้องการ โดยล่าสุด สจล. ได้ส่งมอบ 3
นวัตกรรมทางการแพทย์ช่วยผู้ติดเชื้อ
โควิด-19 ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติขนาดเล็ก (Mini Emergency Ventilator) ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative Pressure Room) และตู้ Swab Test ปลอดเชื้อ ให้แก่โรงพยาบาลสิรินธร สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้ง 3
นวัตกรรมล้วนมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อใช้รักษา และควบคุมปริมาณผู้ติดเชื้อ โดย สจล. เตรียมผลิต
นวัตกรรมดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด (KMITL 60th Year: Go Beyond the Limit) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสังคมก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
โควิด-19
ศ.นพ. อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดีคณะแพทยศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า
นวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติขนาดเล็ก (Mini Emergency Ventilator) มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อในปอด ในภาวะฉุกเฉิน อาทิ อยู่ในระหว่างการส่งตัว หรือรอเข้ารับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล ดังนั้น
นวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจดังกล่าวจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยติดเชื้อ
โควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทีมนักวิจัย และพัฒนา
นวัตกรรม สจล. จึงมีแนวคิดการผลิต
นวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติขนาดเล็ก (Mini Emergency Ventilator) ในปริมาณมาก และในต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาทต่อเครื่อง เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลที่มีความต้องการใช้งานกับผู้ป่วย
โควิด-19 โดยหลักการของเครื่องช่วยหายใจดังกล่าวได้รับแนวคิดมาจากเครื่องช่วยหายใจชนิดบีบมือ (Ambu bag) ซึ่งทีมนักพัฒนา
นวัตกรรมได้นำมาประยุกต์ใช้กับระบบควบคุมโดยเมคคานิค ที่สามารถตรวจจับจังหวะการหายใจของผู้ป่วย และเครื่องจะทำการบีบอัดแรงดันบวกเข้าไปโดยอัตโนมัติ ในจังหวะที่เข้ากับอัตราการหายใจของผู้ป่วย ทำให้การใช้งานมีความง่าย สะดวก และปลอดภัย ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบระดับสูง
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวเพิ่มว่า สจล. โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ และศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ สจล. ได้วิจัยและพัฒนา ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นห้องปรับความดันอากาศภายในห้องให้เป็นลบ หรือมีแรงดันต่ำกว่าภายนอกห้อง เพื่อไม่ให้อากาศภายในห้องที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนไหลออกสู่ภายนอกห้อง โดย สจล. มุ่งพัฒนาห้องดังกล่าวเพื่อการผลิตในต้นทุนที่ต่ำลง แต่คงประสิทธิภาพในการใช้งาน เพื่อรองรับกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด–19 ที่เพิ่มขึ้น โดย สจล. ได้ทำการวิจัยและพัฒนาด้วยการเลือกใช้วัสดุทดแทนที่หาได้ภายในประเทศ อาทิ พัดลมอัดอากาศ และระบบกรองอากาศฆ่าเชื้อโรคแบบกรองอนุภาคขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับวัสดุที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ ทำให้ทุนในการผลิตลดลงเหลือราว 150,000 ถึง 200,000 บาทต่อห้อง จากปกติที่ต้องใช้เงินในการผลิตห้องละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ยังเตรียมดัดแปลงห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) ในรูปแบบเคลื่อนที่ได้ (Movable room) เพื่อความสะดวกในการขนย้าย และสามารถเคลื่อนไปตั้งที่จุดคัดกรองในสถานที่ต่างๆ ตามความต้องการใช้งาน
รศ.ดร.คมสัน กล่าวเพิ่มว่า อีกหนึ่ง
นวัตกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ คือ ตู้ Swab Test ปลอดเชื้อ โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. ได้พัฒนา
นวัตกรรมดังกล่าวเพื่อช่วยบุคลากรทางการแพทย์คัดกรองผู้ติดเชื้อ
โควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย โดยตู้ Swab Test ใช้ระบบควบคุมความดันลบภายในห้อง พร้อมติดตั้งระบบกรองและฆ่าเชื้อก่อนปล่อยอากาศสู่ภายนอก ทำให้สามารถควบคุมการปนเปื้อนของเชื้อขณะแพทย์ทำหัตถการ Swab เชื้อจากช่องโพรงจมูกและกระพุ้งแก้มของผู้ป่วย อีกทั้งมีระบบฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังทำหัตถการ โดยแพทย์จะไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง นอกจากนี้ยังมีชุดจ่ายสเปรย์แอลกอฮอล์ และมีหลอด UV ในการฆ่าเชื้อโรค ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการ รวมทั้งติดตั้งระบบการเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยแบบปลอดเชื้อ โดยทางคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. พร้อมส่งมอบต้นแบบตู้ดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่สนใจสามารถนำไปผลิตได้เอง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับโรงพยาบาล หรือหน่วยงานที่สนใจรับคำแนะนำ และต้นแบบการผลิต
นวัตกรรมดังกล่าว สามารถติดต่อสำนักงานบริหารงานวิจัยและ
นวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) โทร. 091-812-0416 หรืออีเมล kannika.li@kmitl.ac.th หรือประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนการผลิตเพื่อแจกจ่ายแก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ สามารถบริจาคได้ที่
ธนาคารกรุงไทย ชื่อ
บัญชี สจล.
นวัตกรรมสู้ COVID-19 เลขที่
บัญชี 693-031-750-0