![แนะปราบหนอนเจาะผลทุเรียน]()
กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--
กรมวิชาการเกษตร
ในช่วงที่มีแดดแรง อากาศร้อน และมีฝนตกบางช่วงของวันแบบนี้
กรมวิชาการเกษตรแนะ
เกษตรกรชาวสวน
ทุเรียนเฝ้าระวังการเข้าทำลายของหนอนเจาะผล
ทุเรียน มักพบการเข้าทำลายในช่วงที่ต้น
ทุเรียนอยู่ในระยะพัฒนาผลจนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต
ทุเรียน เกษตรกรค
วรหมั่นสำรวจสวน
ทุเรียนในระยะนี้ จะพบการเข้าทำลายตั้งแต่ผล
ทุเรียนยังเล็กอายุประมาณ 2 เดือน จนกระทั่งผลโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว ทำให้ผล
ทุเรียนเป็นแผล ผลอาจเน่าและร่วงเนื่องจากเชื้อราเข้าทำลายซ้ำ หากหนอนเจาะกินเข้าไปจนถึงเนื้อผล จะทำให้บริเวณนั้นเน่าเมื่อผลสุก โดยจะสังเกตเห็นมูลและรังของหนอนได้อย่างชัดเจนที่บริเวณเปลือกผล
ทุเรียน เมื่อผล
ทุเรียนใกล้แก่จะมีน้ำไหลเยิ้ม หนอนจะเข้าทำลายผล
ทุเรียนที่อยู่ชิดติดกันมากกว่าผลที่อยู่เดี่ยวๆ เพราะผีเสื้อตัวเต็มวัยชอบวางไข่ในบริเวณรอยสัมผัสนี้ ถ้าผล
ทุเรียนที่มีรอยแมลงทำลายจะส่งผลทำให้ผลผลิต
ทุเรียนขายไม่ได้ราคา
เกษตรกรค
วรหมั่นสังเกตตรวจดูผล
ทุเรียนภายในสวน หากพบรอยทำลายของหนอนเจาะผล
ทุเรียน ให้ใช้ไม้หรือลวดแข็งเขี่ยตัวหนอนออกมาทำลายทิ้ง จากนั้น ให้ตัดแต่งผล
ทุเรียนที่มีจำนวนมากเกินไป โดยเฉพาะผลที่อยู่ติดกัน
เกษตรกรควรใช้กิ่งไม้หรือกาบมะพร้าวคั่นระหว่างผล เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเต็มวัยวางไข่หรือตัวหนอนเข้าหลบอาศัย และควรเริ่มห่อผล
ทุเรียนตั้งแต่มีอายุ 6 สัปดาห์เป็นต้นไปด้วยถุงมุ้งไนล่อน ถุงรีเมย์ หรือถุงพลาสติกสีขาวขุ่นที่เจาะรูบริเวณขอบล่าง เพื่อให้น้ำระบายออกมาได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายของผล
ทุเรียนได้
หากพบการระบาดรุนแรงของหนอนเจาะผล
ทุเรียน ให้
เกษตรกรเก็บผล
ทุเรียนที่เน่าและร่วงจากการเข้าทำลายของหนอน นำไปเผาไฟหรือฝังทำลายทิ้งนอกสวน จากนั้นให้พ่นด้วยสารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพ คือ สารแลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 5% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคาร์โบซัลแฟน 20% อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นเฉพาะส่วนผล
ทุเรียนที่พบการทำลายของหนอนเจาะผล สำหรับในแหล่งที่มีการระบาด ให้พ่นหลังจาก
ทุเรียนติดผลแล้ว 1 เดือน โดยพ่น 3-4 ครั้ง ทุก 20 วัน