กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น
สวนกระแสโควิด-19 ลุยลิสต์เหรียญเพิ่มกว่า 99 เหรียญ บนกระดานเทรด Satang Pro
บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ชี้ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ถึงแม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ถ้ามองจากภาพรวมของการเทรดในตลาดโลกที่ Market Cap ไต่ระดับขึ้นไปมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลจาก Coinmarketcap วันที่ 7-8 เมษายน 2563) จะเห็นแนวโน้มการเติบโตขึ้นของตลาด
“การเพิ่มเหรียญใหม่เข้ามาก็เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน และรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยสตางค์มีเป้าหมายที่จะเพิ่มให้ครบ 100 เหรียญ ภายในไตรมาสแรกนี้” นายปรมินทร์ อินโสม ซีอีโอ ผู้ ก่อตั้ง สตางค์ และเหรียญZcoin กล่าว
นายปรมินทร์ สรุปมุมมองต่ออนาคตของอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่ และสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2563 จากการเข้าร่วมบรรยายในหัวข้อFuture of Crypto Trading ของงานThe Conference Exchanges ที่ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นวิทยากรหนึ่งเดียวที่ได้รับเชิญจากผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่า
การผนวกรวมตัวของ Exchange
ปัจจุบันจากข้อมูลของ Coinmarketcap มีตลาดแลกเปลี่ยน หรือ Exchange อยู่ที่ 20,000 แห่งซึ่งถ้าเรานำมาเฉลี่ยปริมาณการซื้อขายต่อวันจะพบว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนใช้งาน Exchange เหล่านั้น มันเหมือนกับการสร้าง Local Bank ในแต่ละพื้นที่แต่ไม่นานเหล่า Local Bank นั้นก็จะถูก Take Over โดยธนาคารใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในวงการธนาคาร ปัจจุบันเราก็จะเห็นการที่ Exchange ใหญ่พยายามรุกไปยังตลาดในประเทศต่าง ๆ ซึ่งในแง่ของตัวผู้ใช้งานก็ยินดีที่จะใช้ Exchange เหล่านี้เพราะในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือนั้นมีมานานกว่า Exchange ที่เพิ่งเปิดใหม่
การเทรด Margin จะได้รับความนิยมขึ้น
ในตลาดเก่านั้นการเปิดเทรด Margin หรือแม้แต่การที่เราเป็นนักลงทุนจะเข้าไปลงทุนในตลาด Margin นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในคริปโทเคอร์เรนซี่ มันกลับเป็นเรื่องง่ายที่จะเทรด บางคนอาจจะเข้าใจว่า Margin เป็นเครื่องมือสำหรับนักพนันเท่านั้น แต่ในอีกแง่หนึ่งแล้วมันคือการควบคุมความเสี่ยงในรูปแบบหนึ่งที่มีทั่วไปในการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ถ้าเราเป็นนักลงทุน Bticoin การที่เราสามารถ Short Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงนั้นเป็นประโยชน์ที่ดีมากสำหรับนักลงทุน
สินทรัพย์ดิจิทัล
หลังจากที่กระแส ICO ได้ตายลงไปจากฟองสบู่ที่เกิดขึ้น แต่กระบวนการระดมทุนนั้นยังเป็นสิ่งที่คนยังให้ความสนใจ แนวคิดของการนำ Asset-back-token จึงได้เกิดขึ้น เราจะเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนจากการพยายามสร้าง Stablecoin ของทุกประเทศ หรือแม้แต่ DAI ที่สร้างขึ้นมาโดยอ้างอิงกัน Ethereum ซึ่งจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ ในอนาคตอาจจะเป็นหุ้น เป็นตราสารหรืออาจจะเป็นรูปแบบการลงทุนอื่น ๆ ที่เราอาจไม่เคยนึกว่าจะเกิดขึ้น เพราะเทคโนโลยีบล็อกเชนและอื่น ๆ ที่ก้าวหน้า ทำให้ทุกเรื่องเป็นไปได้
Stablecoin
แนวคิดของ Stablecoin มีมานานแล้วแต่ Libra เป็นผู้จุดกระแสนี้ขึ้นมาทำให้โลกตื่นตัวเรื่อง Stablecoin เราจะเห็นได้ชัดจากการที่ธนาคารกลางของทุกประเทศกำลังศึกษารูปแบบของ CBDC หรือสกุลเงินกลางของประเทศในรูปแบบดิจิทัล การระบาดของโควิด-19 มีส่วนกระตุ้นให้การเกิดของสกุลเงินกลางของแต่ละประเทศเร็วขึ้น ล่าสุด BIS หรือธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ ได้ออกรายงานแนะนำให้ธนาคารกลางทั่วโลกนำสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) รวมถึงการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลมาใช้ในช่วงที่ไวรัสโควิดกำลังระบาด
หนึ่งในปัญหาของ Cryptocurrenyc คือมูลค่าที่ไม่คงที่แนวคิด Stablecoin จึงเข้ามาเพื่อแก้ปัญหานี้ จะเห็นว่าปัจจุบันมี Stablecoin มากมายที่พยายามสร้างมูลค่าโดยนำเอาสินทรัพย์มา Back ไม่ว่าจะเงินหรือทองคำ ทำให้อำนาจของการสร้างสกุลเงินที่มีความมั่นคงไม่ผูกขาดอยู่ที่รัฐและอีกไม่นานเราจะได้เห็นภาคเอกชนเป็นผู้ผลิตเงิน
“สตางค์ก็กำลังศึกษาแนวทางในการสร้าง Stablecoin และ Security Token เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปของเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency เพื่อให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตขึ้น” นายปรมินทร์ สรุป
เกี่ยวกับ Satang Corporation
เป็นผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
รวมถึงการใช้งานสกุลเงินดิจิทัล ในชีวิตประจำวันทั้งในและต่างประเทศ
เนื่องจากบริษัทฯ มีเครือข่ายด้านระบบความปลอดภัย (Security System) และนวัตกรรมทางการเงิน (Financial
Innovation) อยู่ทั่วโลก จึงเป็นเรื่องง่ายที่ Satang
Corp. จะสามารถดึงทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็น Knowledge,
Know-how, Talent และ
เทคโนโลยีใหม่ๆ จากพันธมิตรต่าง ๆ ที่อยู่ทั่วโลกเข้ามาให้คนไทยได้ใช้งาน
เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น
และปลอดภัยขึ้นในทุกมิติของการเงินในชีวิต โดยเฉพาะการลงทุนและที่สำคัญ ที่สุด Satang
Corp. อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของ ก.ล.ต.
จึงมั่นใจได้ในความโปร่งใส และปลอดภัยในธุรกรรมที่ทำกับ Satang
Corp.
นอกจากนั้น Satang Corp. ยังเป็นผู้ให้ให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับ มาตรฐาน ISO 27001
ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลทั้งในรูปแบบดิจิทัลและเป็นเอกสาร
(Information Security Management Systems : ISMS) และ มาตรฐาน ISO/IEC 27701: 2019 ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจาก ISO/IEC 27001
สำหรับเป็นแนวทางให้องค์กรบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมั่นคงปลอดภัย
นำไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้