กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ วลีสั้นๆ ที่สื่อสารถึงวิธีการลดการแพร่เชื้อไวรัส COVID – 19 ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะโรคติดต่อเหล่านี้จะลดลงเมื่อเราไม่ออกไปติดต่อกันและกัน และองค์กรต่างๆ เริ่มปรับตัวไปสู่โหมดการทำงานที่บ้าน (Work from home) หรือการประชุมแบบ Live Streaming ลดการอยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นหัวใจของการลดการแพร่ระบาดเชื้อโรคท่ามกลางวิกฤตนี้ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งยังมีอีกหลายคนที่ยังคงทำงานหนักและไม่ได้หยุดพัก เพื่อที่จะช่วยหยุดยั้งและบรรเทาความทุกข์ของสังคมในตอนนี้ ซึ่งพวกเขาคือฮีโร่และกำลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคมกลับสู่สภาวะปกติได้
'หมอแอน’ หรือ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรพรรณ โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายนักศึกษา และประธานคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคไวรัส COVID - 19 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวแรงหลักในการดูแลชีวิตนักศึกษาธรรมศาสตร์กว่า 4 หมื่นคน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 อีกแง่มุมหนึ่งปณิธานการรับใช้ประชาชนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอทำหน้าที่ในฐานะผู้ให้และส่งต่อหน้ากากผ้า 'THAMMASK’ หน้ากากอนามัยสะท้อนน้ำรุ่นพิเศษที่สามารถใช้แทนหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลน แจกจ่ายไปยังบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ และกุญแจสำคัญที่ขาดไม่ได้คือการขนส่งโดยไปรษณีย์ไทย ได้เข้ามาสนับสนุนการส่งหน้ากากอนามัยในครั้งนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมั่นใจได้ว่าหน้ากากอนามัยที่ส่งไปยังบุคลากรทางการแพทย์จะถึงมือคุณหมอ เจ้าหน้าที่อย่างปลอดภัย จากเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และไปรษณีย์ไทยที่พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนในยามวิกฤต เราจะผ่านพ้นไปด้วยกันอย่างปลอดภัย
“มหาวิทยาลัยในฐานะเป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีความรู้หลากหลาย แล้วก็มีการสร้างนวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบหรือช่วยป้องกัน COVID - 19 ผ่านโครงการ THAMMASK รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มมากที่คนไทยไม่เคยทิ้งกัน ดีใจที่ไปรษณีย์ไทยเห็นคุณค่าของโครงการนี้ ยื่นมืออาสาเข้ามาสนับสนุนด้านการขนส่ง และมั่นใจว่า ไปรษณีย์ไทย จะสามารถจัดส่งหน้ากากอนามัยไปยังบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศด้วยความปลอดภัย”
'สมเกียรติ มั่งมีสิน’ ผู้ช่วยหัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์คลองหลวง ผู้ขับเคลื่อนการขนส่ง 'THAMMASK’ หน้ากากอนามัยสะท้อนน้ำ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สู่โรงพยาบาลทั่วประเทศ 'สมเกียรติ’ เผยว่าการได้เป็นเบื้องหลังในภารกิจที่สำคัญในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไปรษณีย์ ที่ได้อยู่เคียงข้างประชาชนคนไทยทั้งในยามสุขและยามทุกข์ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตนี้คนไปรษณีย์ทุกคนมีขั้นตอนในการดูแลตัวเอง และมีมาตรการบริหารจัดการในเส้นทางไปรษณีย์ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ และมีบริการรับฝากส่งนอกสถานที่ที่จะอำนวยความสะดวกประชาชนมากยิ่งขึ้น ในฐานะตัวแทนคนไปรษณีย์ไทยทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนทุกคน และพร้อมยืนหยัดให้บริการ ไม่มีวันหยุดเพื่อคนไทย
“ทางไปรษณีย์ไทย ภูมิใจมากที่ได้ช่วยเหลือคนไทยทุกคน พวกเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน เราพร้อมเคียงข้างคนไทยทุกคน ในทุกสถานการณ์ เราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในสถานการณ์นี้”
'หมอแอค’ อาจารย์ นายแพทย์ลัญฉน์ศักดิ์ อรรฆยากร แพทย์ประจำศูนย์ชีวาภิบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และหัวหน้าโครงการวิจัยนำร่องเพื่อศึกษาทดสอบระบบอัจฉริยะสำหรับจัดหาอาสาสมัครสาธารณสุข (MedAsa) สภากาชาดไทย กับบทบาทผู้อยู่เบื้องหลังธารน้ำใจคนไทยมือหนึ่งของสภากาชาดไทย ที่ทำหน้าที่รวบรวม และส่งต่อสิ่งของบริจาคจากธารน้ำใจคนไทยที่เข้ามา พร้อมกับอาสาสมัครในการทำ face shield mask โดยผนึกกับไปรษณีย์ไทย ในการช่วยเหลือส่งต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ แม้ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 แต่สิ่งที่ยังคงแข็งแกร่งกว่าการแพร่เชื้อในครั้งนี้ คือน้ำใจคนไทยที่ส่งต่อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ตามเจตนารมณ์หลักในการ 'บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย เพื่อประโยชน์สุขและเป็นที่พึ่งของประชาชน’ และสะท้อนบทบาทไปรษณีย์ไทย ในการส่งต่อสิ่งของสู่โรงพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย
“MedAsa เป็นศูนย์กลางในการประสานงาน กรองคุณภาพและทำความสะอาดของบริจาคต่างๆ โดยเน้นอุปกรณ์ทางการแพทย์จากภาคประชาชน แล้วจะกระจายส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตามที่โรงพยาบาลได้แจ้งความประสงค์เข้ามา โดยไปรษณีย์ไทยถือเป็นตัวเชื่อมประสานที่สำคัญมาก ในการเชื่อมโยงของบริจาคจากจิตอาสาทั่วประเทศ และเป็นเครือข่ายหนึ่งที่ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง”
'นายวิชาญ แม้นเขียว’ บุรุษไปรษณีย์ สังกัด ปณ.ราษฎร์บูรณะ กับภารกิจส่งต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์จาก “ผู้ให้” ถึง “ผู้รับ” และเป็นสื่อกลางหลักในการส่งต่อความช่วยเหลือจากน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ สู่โรงพยาบาลทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะใกล้หรือไกลแค่ไหน ด้วยบทบาทการเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่ผูกพันกับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ดังนั้น การได้ทำหน้าที่ส่งต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากธารน้ำใจคนไทย ถือเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่และบุรุษไปรษณีย์ทุกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจ และความตั้งใจอย่างเต็มความสามารถเคียงข้างประชาชน ส่งต่อสิ่งของและอุปกรณ์เหล่านี้ถึงมือคุณหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ เสมือนคนในครอบครัว และมั่นใจได้ว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ส่งต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากน้ำใจคนไทยถึงมือคุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน
“ผมทำหน้าที่อย่างดีที่สุดครับ ยิ่งช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 คนไม่ออกจากบ้านใช้บริการผ่านไปรษณีย์ไทยเรายิ่งต้องพร้อม ต้องดูแลตัวเองให้มากและรักษาสุขภาพ เพราะเราถือว่าเราคือกำลังหลักที่จะช่วยคนไทยในขณะนี้ และมีอีกบทบาทหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา คือการส่งต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราภูมิใจอย่างมาก คือเราเป็นเสมือนตัวกลางความรู้สึกของผู้ให้และผู้รับที่ส่งต่อให้กัน”
'ติ๊บ’ นิภาวรรณ เต่าทอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุมชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการตรวจคัดกรองและดูแลสมาชิกในชุมชน 'บ้านคลองญี่ปุ่นเหนือ’ โดยได้รับหน้าที่หลักในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID – 19 คือการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดฯ ในพื้นที่หมู่บ้าน และคอยตรวจสอบสุขอนามัยของคนในชุมชน รวมไปถึงการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อลดภาระการทำงานหนักของคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงการตรวจคัดกรองคนที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่เข้ามาพักในชุมชน ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสหรือไม่ ซึ่งในระดับชุมชนการป้องกันถือเป็นหัวใจสำคัญเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในขณะนี้ และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย
“สำหรับการทำหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ ถือว่าเป็นความท้าทายและมีความเสี่ยงมาก แต่หัวใจสำคัญที่พวกเราทำคือ การจะต้องช่วยบรรเทาและแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุด”
'อาชีพคนของประชาชน’ ผู้อยู่เบื้องหลังส่งต่อความช่วยเหลือและทุ่มเทแรงกาย เพื่อยับยั้งและบรรเทาภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 และพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแม้จะอยู่ในความเสี่ยงก็ตาม เพื่อให้ประชาชนคนไทยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้เดินหน้าส่งต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปแล้วกว่า 100,000 กิโลกรัม ใน 164 โรงพยาบาลทั่วประเทศ หากประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน มีความประสงค์จะส่งหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปให้โรงพยาบาลสามารถนำมาส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ได้อย่างต่อเนื่องหรือหากมีจำนวนมากสามารถแจ้งความประสงค์กับไปรษณีย์ไทยได้ที่หมายเลข 0-2831-3598 หรือ 09-1771-7408 เพื่อประสานงานในการขนส่งสำหรับการหุ้มห่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น กล่องอะคริลิค หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่แตกหักเสียหายง่าย ไปรษณีย์ไทยขอความร่วมมือผู้ใช้บริการหุ้มห่อสิ่งของให้หนาแน่น เสริมความแข็งแรงให้กับสิ่งของ เพื่อป้องกันความเสียหายของสิ่งของที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนการขนส่ง พร้อมกันนี้ยังมีโครงการที่ชวนคนไทยเขียนไปรษณียบัตรส่งกำลังใจให้คุณหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ หรือคนที่รัก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งขอรับผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือเจ้าหน้าที่นำจ่ายในพื้นที่ และไปรษณีย์ไทย จะส่งต่อกำลังใจเหล่านี้ไปยังคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ให้มีกำลังใจต่อสู้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.thเฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดทวิตเตอร์ : @Thailand_Postไลน์ออฟฟิเชียล : Thailand Post