กรุงศรีชวนทุกภาคส่วนสานพลังสู้ภัยโควิด-19 พร้อมร่วมรับผิดชอบต่อสังคมในทุกมิติ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 14, 2020 09:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศ (D-SIB) ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งในมิติการดำเนินธุรกิจและมิติด้านสังคม ทั้งในภาวะปกติและในสถานการณ์ที่มีความท้าทายเช่นวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและขยายสู่วงกว้าง ส่งผลกระทบต่อทุกคนในสังคมทั้งระดับประเทศและระดับโลกในขณะนี้ นายพูนสิทธิ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน กล่าวว่า “กรุงศรียึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรมบนหลักการ ESG (Environmental, Social and Governance) อย่างแน่วแน่บนเส้นทางการทำงานในทุกขณะ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรุงศรีได้ออกมาตรการในด้านต่างๆ นานัปการอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้า ผู้มาติดต่อ และพนักงานกรุงศรีเป็นลำดับแรก ซึ่งรวมถึงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและผ่อนปรนภาระตลอดจนความวิตกกังวลต่างๆ ของลูกค้าให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องให้พนักงานและผู้มาติดต่อทุกคนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด” อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่กลับพบว่าบุคลากรทางการแพทย์ยังต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากภาคประชาสังคมอยู่ไม่น้อย จากการที่โรงพยาบาลขาดแคลนเครื่องมือป้องกันและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ดูแลและช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อ กรุงศรีในฐานะองค์กรภาคธุรกิจเอกชน จึงได้หยิบยกมาตรการความช่วยเหลือสังคมแบบเร่งด่วนภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม 3 หมวดหลัก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐและสังคมให้ออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น การสร้างคุณค่าความยั่งยืน สร้างความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานทราบและตระหนักถึงสถานการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดโควิด-19 ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกและสร้างอุปนิสัยความรับผิดชอบต่อสังคมโดยเริ่มต้นจากแนวทางปฏิบัติในการดูแลตนเองและคนในครอบครัวอย่างเคร่งครัดเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่กระจายโรค เช่น การงดเดินทางไปต่างประเทศ การแยกตัวเองอยู่ที่บ้าน และการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ติดตั้งกล้องตรวจจับอุณหภูมิร่างกายที่ทางเข้าอาคาร ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในบริเวณที่มีการสัญจรและพื้นผิวที่มีการสัมผัสเป็นประจำ และติดตั้งป้ายแนะนำการปฏิบัติตัวในการใช้อาคารและลิฟท์ การจัดพื้นที่ปฏิบัติงานตามมาตรการ Social Distancing เป็นต้น นอกจากนี้ กรุงศรีมีการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ซึ่งรวมถึงการทำงานจากศูนย์ปฏิบัติงานสำรอง การทำงานที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งปัจจุบันพนักงานกว่า 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดได้ทำงานที่บ้าน การหยุดให้บริการในบางธุรกิจเป็นการชั่วคราวและการแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์แทนการตอบแทนคืนสู่สังคม จัดตั้งโครงการ “รวมใจสู้ภัยโควิด-19” เชิญชวนพนักงานบริจาคหน้ากาก N95 แก่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการดูแลและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยการดูแล การสนับสนุนด้านเงินช่วยเหลือ มุ่งเน้นการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือสังคมในกรณีต่างๆ การบริจาคเงินช่วยเหลือแก่องค์กรสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับภาคพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้าและพนักงานในการให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย แม้ทำงานอยู่ที่บ้านก็สามารถร่วมบริจาคได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ในโครงการ “รวมใจสู้ภัยโควิด-19” ให้แก่ 3 โรงพยาบาลที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่โรงพยาบาลศิริราช ชื่อบัญชี “ศิริราชมูลนิธิ” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาอรุณอมรินทร์ เลขที่บัญชี 157-0-01851-7 โรงพยาบาลราชวิถี ชื่อบัญชี “บัญชีเงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสนามเป้า เลขที่บัญชี 146-0-02540-4 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ชื่อบัญชี “กองทุนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนมิตรภาพ – แยกปักธงชัย เลขที่บัญชี 357-0-00818-1 “ในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศ การดำเนินธุรกิจของกรุงศรีจึงครอบคลุมเป้าหมายที่มากเกินกว่าเพียงมิติด้านเศรษฐกิจและการเงิน หากยังรวมไปถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล ผ่านหลักการดำเนินธุรกิจธนาคารอย่างยั่งยืน (Sustainable Banking) โครงการ สำหรับ โครงการ 'รวมใจสู้ภัยโควิด-19’ นี้ กรุงศรีได้ดำเนินการคู่ขนานกับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” นายพูนสิทธิ์ กล่าวในที่สุด เกี่ยวกับกรุงศรี กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 75 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 690 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 650 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,902 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.1 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 3,000 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 180,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปัน สู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ