กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--ยนตร์กิจ
“เกีย” มั่นใจยอดขายปี’48 เพิ่มขึ้น 5.8 พันคัน เติบโต 40% มุ่งพัฒนาคุณภาพด้านบริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมชู K2700 รุกช่องว่างตลาดสร้างยอดขาย
นายบุญฤทธิ์ ผ่องเมฆินทร์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและผู้ผลิตรถยนต์ KIA ในประเทศไทย เปิดเผยนโยบายด้านการตลาดสำหรับในปี 2548 ว่า ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าจำหน่ายสำหรับรถยนต์ KIA รวมทั้งสิ้น 5,800 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 40% โดยแบ่งยอดจำหน่ายออกเป็นรุ่น K2700 จำนวน 3,600 คัน รุ่น Pregio จำนวน 1,200 คัน รุ่น Carnival จำนวน 800 คัน และที่เหลืออีกประมาณ 200 คัน เป็นรุ่น Carens และรุ่น Sorento
อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องการสนับสนุนโครงการ ECO Car ด้านอัตราภาษีสรรพสามิต ทางบริษัทฯ คาดว่าจะมีการนำรถ KIA Picanto เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยราคาจำหน่ายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท สำหรับเกียร์อัตโนมัติ อันส่งผลทำให้เป้าจำหน่ายในปีนี้ น่าขยับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000 คัน สำหรับการจำหน่ายในประเทศ และในอนาคต เมื่อมีการประกอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวภายในประเทศ เพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ คาดว่ายอดจำหน่ายจะสูงถึง 50,000 คันต่อปี
ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศแต่งตั้งคณะรัฐบาลอย่างเป็นทางการ น่าจะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน
สำหรับในช่วงแรกของปีนี้ ทางบริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดไทย หากกำลังเร่งศึกษารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ทางบริษัทแม่ เกีย มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดตัวออกสู่ตลาดโลกว่า รุ่นใดเหมาะสำหรับตลาดรถยนต์และผู้บริโภคคนไทย ทั้งราคาจำหน่ายต้องสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อีกด้วย
ดังนั้น ทางบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับงานด้านบริการก่อน-หลังการจำหน่ายเป็นหลักเพื่อสร้างความประทับใจ และความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้ารถยนต์ KIA โดยเฉพาะในเรื่องประสิทธิภาพด้านบริการสำหรับลูกค้า โดยเร่งพัฒนาบุคลากรด้านบริการของสาขาและตัวแทนจำหน่ายทุกแห่งทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้แก่ลูกค้ารถยนต์ KIA ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ได้เร่งสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจให้แก่โชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง และพิจารณาแต่งตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการที่เป็นช่องว่างในพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด ทางบริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อีก 1 แห่ง รวมทั้งหมด 40 แห่งทั่วประเทศ
ปัจจุบัน ในส่วนของตลาดรถเอนกประสงค์ มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ให้ความสำคัญกับรถประเภทดังกล่าวเป็นอย่างมาก และมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่หลากหลาย และมีขนาดใกล้เคียงกับ KIA Carnvial อาทิ มิตซูบิชิ สเปซแวกอน, โตโยต้า วิช, โตโยต้า อิโนวา หรือ อีซูซุ มิว7 เป็นต้น แม้บางรุ่นจะไม่ใช่คู่แข่งโดยตรง หากส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายรถยนต์ KIA Carnival เช่นกัน
ดังนั้น รถยนต์ในรุ่น KIA Carnival ในปีนี้ ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้เท่ากับยอดจำหน่ายในปีที่แล้ว คือ ประมาณ 800 คัน เน้นการสร้างยอดจำหน่าย ด้วยการเพิ่มคุณค่าและอรรถประโยชน์ใช้สอยสำหรับรถยนต์ให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น และเน้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ การจัดแสดงรถยนต์ในห้างสรรพสินค้า หรือมอบเงื่อนไขพิเศษต่างๆ เพื่อความสะดวกในการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ KIA
สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ KIA ยังคงเป็นรุ่น K2700 ที่เป็นรุ่นหลักในการทำตลาดปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยให้ความสำคัญกับตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มากขึ้น ทำให้ตลาดดังกล่าวมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า ในปีนี้ ยอดจำหน่ายโดยรวมของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% จากยอดจำหน่ายของปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวน 399,324 คัน
นายสาธิต เตชะลาภอำนวย ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับรถยนต์ K2700 นับว่าเป็นรถยนต์ที่สร้างยอดจำหน่ายให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากรถยนต์รุ่นดังกล่าวสามารถตอบสนองต่อความ
ต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปลักษณ์ที่โอ่อ่า กว้างขวาง สะดวกสบาย และราคาคุ้มค่าต่ออรรถประโยชน์ที่สามารถรองรับธุรกิจด้านการขนส่งเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ารู้จักและยอมรับรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ได้เจรจากับบริษัทแม่เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องการส่งมอบรถยนต์รุ่นดังกล่าว ทำให้ทางบริษัทฯ มีรถยนต์รุ่นดังกล่าวในสต๊อกเพียงพอที่จะส่งมอบให้แก่ผู้บริโภคได้ทันตามความต้องการ
ช่วงแรกในการทำตลาดรถยนต์ KIA รุ่น K2700 บริษัทฯ จะเน้นการรุกตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ โดยเน้นการจดจำรูปลักษณ์ และคุณสมบัติของรถยนต์เป็นหลัก และในปีนี้ ทางบริษัทฯ จะเร่งขยายตัวออกสู่ตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ด้วยการจัดโรดโชว์ในจังหวัดใหญ่ๆ ของภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมเน้นการโฆษณาในสื่อใหม่ๆ อาทิ Bill Board ในสถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น
และในอนาคต บริษัทฯ มีนโยบายที่จะตกแต่งรถ K2700 รองรับงานด้านการค้าขายหรือการบริการด้านการขนส่งต่างๆ อาทิ รถสำหรับขายดอกไม้, ก๋วยเตี๋ยว, แซนวิส หรือปรับเป็นรถเครื่องเสียง หรือเป็นเวทีสำหรับการแสดง เป็นต้น ซึ่งนับเป็นตลาดที่น่าสนใจ และเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีปริมาณมากทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อคุณฤชุตา, คุณวาสนา
โทร.02-6116888 ต่อ 5040, 5043--จบ--