![ช้างไทยเข้าสู่ภาวะอดอยากจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19]()
กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--พีอาร์ โปร เอเชีย
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในวงกว้างไปทั่วโลก และมีจำนวนผู้ติดเชื้อแล้วกว่าสองล้านคน รวมถึงมีผู้เสียชีวิตอีกนับแสนคน นอกจากนั้นการสูญเสียในครั้งนี้ยังส่งผลวิกฤติในด้านสภาพคล่องทางเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดคือ ธุรกิจท่องเที่ยว ที่ต้องหยุดให้บริการหรือชะลอตัวเพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งไม่ได้มีเพียงคนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้ หากแต่ยังรวมไปถึงสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน
ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจปาง
ช้างกว่า 85 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันหลายแห่งได้ปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนปาง
ช้างที่เหลือกำลังดิ้นรนเพื่อให้
ช้าง รวมถึงกิจการสามารถอยู่รอดต่อไปได้ และที่สำคัญปาง
ช้างทุกแห่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนรายได้ที่จะนำไปซื้ออาหารและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยง
ช้าง ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงต่อ
ช้างที่อาศัยอยู่ปาง
ช้างเป็นอย่างมาก ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวน
ช้างที่อาศัยอยู่ในปาง
ช้างเชิงท่องเที่ยว ประมาณ 2,500 เชือก ยังไม่นับรวมถึงปาง
ช้าง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการนำ
ช้างออกจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีการขี่หลัง
ช้าง หรือการลากซุงมายังพื้นที่ที่ให้อิสระกับ
ช้างได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีปางในลักษณะแบบนี้มีอยู่ 6 แห่งทั่วประเทศไทย
ช้างที่อยู่ในปางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้มีอยู่จำนวนเกือบ 60 เชือก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลพิเศษ เพราะส่วนใหญ่เป็น
ช้างที่มีโรคประจำตัว หรือมีอายุค่อนข้างมาก ไม่สามารถกลับไปทำงานหนักได้เหมือนก่อน
ช้างวัยแก่บางเชือกจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมเพื่อช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายด้วย แต่ในภาวะเช่นนี้บวกกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุด ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติลดลง หากขาดเงินทุนเข้ามาช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับ
ช้างแล้ว พวกมันสามารถอดตายได้
โดยสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแล
ช้างคือ อาหาร เพราะในแต่ละวัน
ช้างต้องการอาหารประมาณ 10% ของน้ำหนักตัว โดยมีอาหารหลัก ได้แก่ หญ้า ใบไม้ ผัก และผลไม้ ซึ่งต้องการประมาณ 400 กิโลกรัมต่อวัน นอกจากนี้ยังมีค่าขนส่งอาหาร และของใช้อื่นๆ อาทิ ยารักษาโรค ซึ่ง
ช้างบางตัวยังต้องให้อาหารเสริมเนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง และหากปราศจากการช่วยเหลือ มีความเสี่ยงสูงมากที่
ช้างเลี้ยงเหล่านี้จะขาดสารอาหารและอดตายในที่สุด
ชเร สังข์ขาว เจ้าของปาง
ช้างเป็นมิตรกับ
ช้าง Following Giants จังหวัดกระบี่ ที่เพิ่งเปิดได้เพียงไม่ถึงปี ก็ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
โควิด-19 เช่นกัน โดยเขากล่าวว่า “ปัญหาหลักคือเรื่องอาหารที่ต้องให้
ช้าง ที่นี่แม้เราอาจมีแหล่งอาหารธรรมชาติก็จริง แต่ตอนนี้เป็นหน้าแล้ง
ช้างไม่สามารถหาอาหารตามธรรมชาติเองได้ ทำให้เราต้องซื้ออาหารที่เหมาะสม เช่น กล้วยหรือสับปะรด จากข้างนอก ปัจจุบัน
ช้างในปาง
ช้างมีทั้งหมด 3 เชือก ซึ่งใช้งบประมาณในการดูแล 50,000 บาทต่อเชือกและต่อเดือน โดย
ช้างแต่ละเชือกล้วนอยู่กับปาง
ช้างมานานเกิน 12 ปี บางตัวมีอายุ 60 ปีซึ่งแก่มากและต้องได้รับอาหารเสริมเป็นพิเศษ ซึ่งนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราลำบากมาก เพราะตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย”
ขณะเดียวกัน ปาง
ช้าง ChangChill ซึ่งเป็นปาง
ช้างที่เป็นมิตรกับ
ช้างแห่งแรกในประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีสภาวะชะลอตัวเช่นเดียวกัน โดย ศุภกร ตานะเศรษฐ เจ้าของปาง
ช้างชิล กล่าวถึงสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ว่า “ตอนนี้เราจัดการแก้ปัญหาเบื้องต้นโดยการขอลดเงินเดือนพนักงานและควาญ
ช้างลง 70% แต่สิ่งที่เรากังวลมากที่สุด คือส่วนของอาหาร
ช้างและค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแล
ช้าง ตลอดจนการวางแผนว่าจะต้องทำอย่างไรให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ โดยไม่กระทบกับชีวิต
ช้าง”
เนื่องจากขณะนี้ เจ้าของปาง
ช้างกำลังขาดแคลนรายได้ที่จะนำไปซื้ออาหารและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยง
ช้าง สิ่งเหล่านี้จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งในขณะนี้ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกสากล ได้ทำการช่วยเหลือเบื้องต้นในส่วนที่เป็นปัญหาเร่งด่วนด้านอาหารและยาที่จำเป็นต่อ
ช้างและควาญ
ช้างในปาง
ช้าง 6 ปาง
ช้าง
อย่างไรก็ตาม ทางปาง
ช้างเองก็ยังต้องความการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และมีสองปาง
ช้างที่ท่านสามารถช่วยเหลือได้โดยตรง โดยโอนเงินเข้าบัญชีของปางข้างที่เป็นมิตรได้ที่ปาง
ช้าง Following Giants หรือ Chang Chill
ปาง
ช้าง Following Giants ธ. กสิกรไทย เลขที่บัญชี 3-39221-581-5 ชื่อบัญชี ชเร สังข์ขาวปาง
ช้าง ChangChill ธ. ทหารไทย เลขที่บัญชี 621-2-38088-2 ชื่อบัญชี ศุภกร ตานะเศรษฐ