![ความอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ “Internet of Everything” การเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไต้หวัน]()
กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ไอทูอี มาร์เก็ตติ้ง
งานแสดงสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ CES ที่ได้จัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่
ไต้หวัน ซึ่งเป็นงานแสดงเกี่ยวกับ Internet of Things (IoT) ซึ่งได้กลายมาเป็น "Intelligence of Things" โดยได้รวมองค์ประกอบของ 5G และ AI เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มอุปกรณ์ IoT ทั่วโลกนั้นจะมีมากถึง 45.4 พันล้านชิ้น ภายในปี 2566 นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่า 50% ของทั้งหมดจะเป็นอุปกรณ์อัตโนมัติภายในบ้านและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย, ตามมาด้วยนวัตกรรมเพื่อยานยนต์อัจฉริยะ (IoV), โรงงานอัจฉริยะ, การจัดการด้านสินทรัพย์, มาตรวัดเชื้อเพลิง มาตรวัดน้ำและไฟฟ้า, รวมไปถึงสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่น ๆ อีก
การใช้อินเตอร์เน็ตที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรมในหลาย ๆ รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น ข้อมูลความลับของบริษัท รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ซึ่งหากจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับเหตุการณ์ของเชื้อโคโรน่าไวรัส (COVID-19) ในตอนนี้ ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากทั่วโลก เพราะไวรัสคอมพิวเตอร์มีการปรับเปลี่ยนตัวเองไปในรูปแบบต่างๆ และการโจมตีของมันก็นำไปสู่ความเสียหายที่สำคัญๆหลายอย่าง ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกและการดำเนินธุรกิจโดยรวม จากผลสำรวจในปี 2561 ของ CrowdStrike บริษัทผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านไอทีชั้นนำของโลก ที่ได้เข้าไปสำรวจบริษัทกว่า 1,300 แห่งพบว่า กว่าร้อยละ 66 เคยมีประสบการณ์การถูกโจมตีทางไซเบอร์ และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์ทางไซเบอร์นี้ได้ถูกบันทึกไว้ว่า เป็นความเสียหายที่มากที่สุดในประวัติการณ์ของ
ไต้หวัน การจัดการ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญหลักในการดำเนินธุรกิจให้มีเสถียรภาพ
จากสถิติของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือ ITRI พบว่า ในปี 2562 มูลค่าการผลิตโครงข่ายรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ
ไต้หวันนั้นเพิ่มมากขึ้นถึง 12.3% โดยมีมูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 ทั้งนี้ 2 ปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลให้มูลค่าการผลิตสูงขึ้น คือ การส่งออกเครือข่ายอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยที่มีเพิ่มมากขึ้น และ ความต้องการบริการด้าน
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย สำหรับธุรกิจนี้ใน
ไต้หวัน มูลค่าการส่งออกของสินค้าที่เกี่ยวกับเครือข่ายความปลอดภัย (เช่น Firewalls รวมไปถึงแพลตฟอร์มเครือข่ายต่าง ๆ ด้านความปลอดภัย), ระบบปฎิบัติการ Back-end และการป้องกันความปลอดภัยของอุปกรณ์มือถือ (ชิปที่ช่วยในการระบุลายนิ้วมือ, เฟิร์มแวร์ตัวประมวลผลความปลอดภัย), และการรักษาความปลอดภัยของ IoT รูปแบบใหม่ (เกตเวย์ หรือ จุดต่อเชื่อมของเครือข่าย) มีมูลค่ารวมแล้วกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นมูลค่าการบริการด้านการรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (การตรวจสอบ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์, การจัดการระบบปฏิบัติงาน) คาดว่าจะสูงกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความตระหนักเกี่ยวกับการรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งความต้องการนี้นำไปสู่มูลค่าการผลิตที่สูงขึ้นในอนาคต
เพื่อเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สารสนเทศและการสื่อสารของ
ไต้หวันในระดับสากล ทางกรมการค้าต่างประทศ ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจของ
ไต้หวัน ได้มอบหมายให้ศูนย์ส่งเสริมการค้ารัฐบาล
ไต้หวัน (ไททรา) เข้ามามีส่วนร่วมและวางแผนจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทาง
อิเล็กทรอนิกส์ในนิทรรศการหลักๆระดับนานาชาติ ในส่วนของการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของสินค้าที่ได้รับรางวัลการันตีความเป็นเลิศในด้านนวัตกรรมและคุณภาพของ
ไต้หวัน (Taiwan Excellence) เช่น งาน Computex เมืองไทเป ที่จะจัดแสดงในเดือนมิถุนายน, Convergence India ในเดือนกรกฎาคม, งานแสดงสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค Berlin's IFA ในเดือนกันยายน, รวมไปถึง การประชุมระดับโลกทางด้านไอที (WCIT) และ งาน Indonesia Infrastructure Week (IIW) อยู่ในเดือนตุลาคม รวมไปถึงการจัดงานแถลงข่าวระดับนานาชาติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานผลเชิงลึกในการพัฒนาภาคธุรกิจ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ด้าน
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำของ
ไต้หวัน ได้แก่ ZYXEL, VIVOTEK และ Edgecore
ZYXEL – AiShield บริการการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลความปลอดภัยบนคลาวด์ เมื่อเปิดใช้งาน AiShield ผู้ใช้งานจะสามารถระบุอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงทั้งหมดของตนเองได้ เพื่อเป็นการป้องกันมัลแวร์, การหลอกเอาข้อมูลผ่านอีเมล, รวมไปถีงการโจมตีและการคุกคามของแฮ็กเกอร์VIVOTEK ได้เปิดตัวโซลูชั่นการจัดการทางด้าน
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำของโลก โดยโซลูชั่นนี้ได้นำเสนอการป้องกันที่แน่นหนา เริ่มจากระบบหน้าบ้าน Front-end ของโครงข่ายกล้อง (IT9389-HT), ไปยังการบันทึกวีดีโอแบบดิจิตอล (ND9541P), และรวมไปจนถึงระบบหลังบ้าน Back-end ของซอฟต์แวร์บริหารจัดการและบันทึกภาพกล้องวงจรปิด (VAST 2) ระบบนี้จะสามารถตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นจากภัยคุกคาม และลดความเสี่ยงของการใช้งานจากระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ไอพีเป็นสื่อกลางได้อีกด้วยEdgecore Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นเครือข่ายสำหรับผู้ประกอบการ, ศูนย์ข้อมูล, และผู้ให้บริการทางด้านโทรคมนาคม ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ล่าสุด L2+/Lite L3 10G Ethernet Aggregation Switch – ECS5520-18X ซึ่งเป็นสวิตซ์การจัดการประสิทธิภาพสูง 10GbE พร้อมพอร์ตอัปลิงค์ 40GbE สองพอร์ต และได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติระบบ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรวบรวมผู้ให้บริการ/ผู้ประกอบการเข้าด้วยกัน
รางวัล Taiwan Excellence Awards ก่อตั้งโดยกระทรวงเศรษฐกิจ
ไต้หวัน (MOEA) ในปี พ.ศ. 2536 ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 4 หัวข้อ คือ การวิจัยและพัฒนา, การออกแบบ, คุณภาพและการตลาดที่คัดเลือกโดยรัฐบาล และผลงานที่ได้รับรางวัลนี้เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม สัญลักษณ์นี้ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากกว่า 106 ประเทศ
ทำความรู้จักกับ Taiwan Excellence ได้ที่ : http://bit.ly/37XipEA หรือผ่านทาง Facebook : https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/