![ด้วยพระปรีชาสามารถ ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล วันนี้ราษฎรอยู่ดีมีสุข]()
กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--กปร.
โครงการฝายคลองท่าแพรอันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน
จังหวัดสตูล เป็นโครงการในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำ
จังหวัดสตูล ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระราชทาน
พระราชดำริให้วางโครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งขาดแคลนน้ำใช้ในการเกษตร โดยโครงการฝายคลองท่าแพรฯ เป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาวสันฝาย 13.10 เมตร สูง 1.50 เมตร ควบคุมการทดน้ำและระบายน้ำโดยใช้บานระบาย ชนิดบานโค้ง มีคลองส่งน้ำ จำนวน 7 สาย ความยาวรวม 37.189 กิโลเมตร และมีคลองระบายน้ำ 2 สาย ความยาวรวม 18.840 กิโลเมตร สามารถส่งน้ำเข้าช่วยพื้นที่การเกษตรให้แก่ราษฎรในเขต
ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน
ตำบลควนโพธิ์
ตำบลฉลุง
ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง รวม 4
ตำบล 17 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร ประมาณ 10,000 ไร่ และส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งประมาณ 600 ไร่
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมี
พระราชดำริเมื่อวันที่ 18 -19 กันยายน 2520 ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการพัฒนาลุ่มน้ำทั้งหมดในเขต
จังหวัดสตูลไว้เป็นแผนแม่บท (Master Plan) และพระราชทานแผนที่มาตราส่วน 1 : 50,000 แสดงทำเลที่จะสร้างโครงการชลประทาน โดยให้กรมชลประทานใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อสนอง
พระราชดำริและโครงการคลองท่าแพรก็อยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาตาม
พระราชดำริด้วย
นายปรีชา สามัญ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายคลองท่าแพรอันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ กล่าวว่า ในอดีต
ตำบลควนโดน มีความแห้งแล้ง ราษฎรที่ทำนาปลูกข้าวประสบปัญหาต้นข้าวยืนต้นตาย จึงร่วมกันขุดลอกคูคลองที่คาดว่าจะพอมีน้ำ อยู่บ้าง และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบส่งเข้าพื้นที่นาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ได้ไม่ทั่วถึง ต่อมานายสะอาด กอลาบันหลง ประธานคณะกรรมการหมู่บ้าน อพป.และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16
ตำบลฉลุง อำเภอเมือง
จังหวัดสตูล ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่มีหนังสือร้องเรียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร ขอให้ทางราชการสร้างฝายน้ำล้นในเขต
ตำบลควนโดน เพื่อช่วยเหลือราษฎรเรื่องน้ำ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกรมชลประทานพิจารณาดำเนินการ สำนักงานชลประทานที่ 16 จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพิจารณาเบื้องต้นพบว่ามีแนวทางที่จะช่วยเหลือได้ โดยการสร้างฝายทดน้ำปิดกั้นคลองท่าแพรและขุดคลองส่งน้ำไปช่วยพื้นที่ที่เดือดร้อนขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นไปตามแนวแผนแม่บทของการพัฒนาลุ่มน้ำในเขตอำเภอเมือง และอำเภอละงู ซึ่งเป็นโครงการระยะยาวของกรมชลประทาน
“ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ทุกคนสามารถทำการเพาะปลูกพืชได้หลากหลายนอกจากทำนาปลูกข้าว โดยเฉพาะข้าวให้ผลผลิตดีจนเหลือกินในชุมชน สามารถนำมาแปรรูปเป็นข้าวสารส่งขายในชุมชนอื่น ๆ ได้อีกด้วย ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม มีกินมีใช้อย่างสมบูรณ์ในปัจจุบัน” นายปรีชา สามัญ กล่าว
นอกจากนี้ กรมชลประทานในพื้นที่ ยังได้ปรับปรุงฝายและระบบส่งน้ำให้สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ของราษฎรได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ และจะได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่ส่งน้ำให้กับราษฎรต่อไป ขณะที่ราษฎรมีความต้องการที่จะให้เพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำบริเวณหัวฝาย เพื่อเป็นธนาคารน้ำส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรมากขึ้นในอนาคต
นับเป็นพระปรีชาญาณที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงวางแผนพัฒนาลุ่มน้ำทั้งหมดในเขต
จังหวัดสตูล ได้สร้างวิถีชีวิตที่ดีขึ้นให้กับราษฎร และยังได้รับการสานต่อมายังรัชสมัยปัจจุบันในการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับความต้องการของราษฎรที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกขณะ
![]()
![]()