กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--สคร.12สงขลา
สถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ หรือที่เรียกว่า State Quarantine/ Local Quarantine เพื่อสังเกตอาการผู้เดินทางกลับต่างประเทศเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน ป้องกันการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19)
รัฐบาลไทยมีนโยบายให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทุกคนจะต้องกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด เพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะวัตถุประสงค์ของการต้องมีสถานที่กักกัน เพื่อใช้ดูแลและควบคุมผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เป็นการสังเกตการเริ่มป่วย ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
สถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนกลาง (State Quarantine) ดูแลโดยกระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ 2.) ในพื้นที่ต่างจังหวัด (Local Quarantine) โดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ปัจจุบัน มี state Quarantine ที่มีผู้เข้าพักจำนวน 10 แห่ง ใน กทม. และ 4 แห่งที่ต่างจังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี และนครปฐม ส่วน Local Quarantine มีกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
แนวทางมาตรการสำหรับผู้ถูกกักกัน ณ สถานที่ Quarantine
ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกคนจะถูกกักกันตัวเพื่อสังเกตอาการ ณ สถานที่กักกันโรค ไม่น้อยกว่า 14 วัน ถัดจากวันที่เดินทางถึงประเทศไทยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้มอบหมาย ณ สถานที่กักกันโรค คัดกรองอาการไข้ และสอบถาม ติดตาม อาการทางเดินหายใจทุกวันเก็บตัวอย่างทางเดินหายใจผู้ถูกกักกันทุกคน ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประมาณวันที่ 5 - 7 ของการกักกันตัว หรือเมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หรือหอบเหนื่อย อย่างหนึ่งอย่างใดผู้เดินทางที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือมีอาการป่วยเข้าได้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ในระหว่างกักกันตัว จะถูกส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อเข้ารับการตรวจ รักษา รับการชันสูตรทางการแพทย์ และแยกกัก
ทั้งนี้ State Quarantine/ Local Quarantine ถือเป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญ ในการป้องกันไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศไปแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัวและชุมชน ลดการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทำความเข้าใจว่าคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่เข้ามาอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้นั้นไม่ใช่ผู้ป่วย แต่มาอยู่เพื่อสังเกตอาการ หากป่วยจะได้นำเข้าสู่ระบบการรักษาได้ทันที ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้เป็นการสร้างความปลอดภัย ลดโอกาสเสี่ยงให้กับคนในครอบครัวหรือคนในชุมชน ไม่ต้องสัมผัสผู้ติดเชื้อในกรณีที่มีคนกลับจากต่างประเทศเกิดป่วยในเวลาต่อมา
สำหรับผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 ก่อนจะได้กลับบ้านจะได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้พักที่โรงพยาบาลเฉพาะจนครบ 14 วัน (Hospitel) นับจากวันที่เริ่มป่วย หลังจากนั้นสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านจนครบ 1 เดือน นับจากวันเริ่มป่วย ซึ่งในระหว่างนี้ ให้รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากอนามัย ระมัดระวังสุขอนามัยส่วนบุคคล และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากปฏิบัติได้ถูกต้องตามที่กล่าวมาข้างต้น จะสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าจะไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทั่วไป
สุดท้าย ข้อเน้นย้ำประชาชน ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1 - 2 เมตร ล้างมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสพื้นผิวใดๆ สวมหน้ากากอนามัย/ผ้าเมื่อออกไปที่ชุมชน หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422