กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 18 จังหวัด รวม 37 อำเภอ 78 ตำบล 191 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3,597 หลัง ปัจจุบันคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดเกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ช่วงวันที่ 29 เมษายน 2563 ถึงปัจจุบัน (7 พ.ค.2563 เวลา 06.00 น.) ในพื้นที่ 18 จังหวัด ดังนี้ ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ พิษณุโลก และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ลพบุรี และสิงห์บุรี ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี รวม 37 อำเภอ 78 ตำบล 191 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3,597 หลัง วัด 2 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง สถานีบริการน้ำมัน 1 แห่ง เสาไฟฟ้า 35 ต้น มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป