กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย” ลุยปรับตัวรับ New Normal หลังพฤติกรรมประชาชนเปลี่ยนไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และเดินหน้ารับออเดอร์ลูกค้าแน่น หลังประเทศผู้ผลิตโปรตีนพื้นฐานรายใหญ่ของโลกปิดโรงงาน พร้อมคงเป้ารายได้ปี 2563 เติบโต 10-12%
ดร.สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด และการเฝ้าระวังของไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และหลายจังหวัดในประเทศ โดยในขณะนี้หลายทวีปในโลกเริ่มมีการใช้มาตรการปิดประเทศหรือ Lockdown แล้ว
ทั้งนี้จากมาตรการ Lockdown ดังกล่าว รวมทั้งประเทศผู้ผลิตโปรตีนพื้นฐานรายใหญ่ของโลกได้มีการปิดโรงงาน หลังจากพนักงานมีการติดเชื้อ COVID-19 ทำให้มีออเดอร์เข้ามาในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ลูกค้าของบริษัทมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทได้รับอานิสงค์ออเดอร์ที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวเข้ามาอีกด้วย
ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ส่งผลประชาชนเริ่มมีการปรับพฤติกรรม ทำให้เกิดมาตรฐานความปกติใหม่ (New Normal) และจากการเกิด New Normal ทำให้มีการสั่งอาหารแบบ delivery มากขึ้น ทางบริษัทจึงต้องวางแผนและปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับ New Normal เพื่อสร้างผลการดำเนินงานในอนาคตให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2563 จะเติบโต 10-12% จากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,881.99 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการขยายกำลังการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนออเดอร์ที่สูงขึ้น
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในครั้งนี้ ยังมีในส่วนซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ยังมีการเปิดอยู่ และร้านอาหารเริ่มมีการทำ Delivery มากขึ้น ทำให้เรามีออเดอร์สูงขึ้นตาม และในธุรกิจอาหารนั้นส่วนใหญ่เครดิตจะเป็นในระยะสั้น ทำให้ลูกค้าของบริษัทส่วนมากจะมีหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ และยังคงมีสภาพคล่องในการสั่งออเดอร์อยู่ ส่งผลให้ RBF มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังต้องมีการปรับตัวตาม New Normal ที่กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน ทำให้ RBF ได้มีการศึกษาวิจัย เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์และเทรนด์ของโลกที่กำลังจะเปลี่ยนไปอีกด้วย”นายสมชาย กล่าว