![วว. ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพ / มูลค่าพืชไร่ชุมชน (สับปะรด) จ.ประจวบคีรีขันธ์]()
กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ
นวัตกรรม (อว.) โดย
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน “ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน(
สับปะรด)
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ระบุมีขนาดกำลังการคัดบรรจุ
สับปะรดผลสดได้ 3 ตันต่อชั่วโมง มุ่งบ่มเพาะผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ
นวัตกรรม ชี้เป็นศูนย์ฯที่จะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของไทยด้านการขยายตลาดส่งออก
สับปะรดผลสดและผลไม้อื่นๆ ของไทย หลังวิกฤตโควิด-19
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการคัดบรรจุ
สับปะรดในพื้นที่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็น 1 ใน 7 แห่งของโครงสร้างพื้นฐาน ที่ วว. ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยศูนย์ฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งการนิคมสร้างตนเอง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดสรรพื้นที่และมอบให้ วว. ดำเนินการ มีรูปแบบการบริหารจัดการมุ่งใช้ประโยชน์ในการเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ
นวัตกรรม (วทน.) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์
สับปะรดแห่งชาติ โดย วว. บูรณาการดำเนินงานศูนย์ฯแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานราชการและกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งในพื้นที่
ศูนย์ฯ นี้มีศักยภาพในการผลิต
สับปะรดผลสดส่งจำหน่ายต่างประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 3 ตันต่อชั่วโมง เป็นโรงคัดบรรจุผลสดทันสมัยแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีเครื่องจักรและกระบวนการผลิตมาตรฐานครบวงจร ที่สามารถใช้งานได้จริงในพื้นที่และเป็นศูนย์เรียนรู้ศึกษาดูงานของผู้ผลิตผู้ประกอบการ
สับปะรดจากพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังสามารถประยุกต์ต่อยอดการใช้ประโยชน์กับการผลิตผลไม้อื่นๆในพื้นที่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และใกล้เคียงได้ ปัจจุบันศูนย์ฯ มีขอบเขตการบ่มเพาะเทคโนโลยีการคัดบรรจุและแปรรูป
สับปะรดและผลไม้อื่นๆ ได้แก่ 1. การแบ่งเกรดและคัดบรรจุ
สับปะรดผลสด 2.การเคลือบผิวผลไม้ 3. การผลิตผลไม้ตัดแต่ง ได้แก่ มะม่วง ขนุน
สับปะรด 4. การบริหารจัดการห้องเย็น 5. การผลิต
สับปะรดกวน แยม
สับปะรด น้ำ
สับปะรดผสมว่านหางจระเข้ มะม่วงกวน และ 6. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
สับปะรด
“...จากภาวะวิกฤตโควิด-19 ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน(
สับปะรด)
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ของ วว. ได้มีบทบาทในการช่วยแก้ปัญหาการว่างงาน โดยการเปิดรับสมัครบุคลาการจำนวนหนึ่งเพื่อเข้ามาเป็นกำลังเสริมในระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนั้นภายหลังวิกฤตในครั้งนี้ วว. มุ่งเป้าให้ศูนย์ฯแห่งนี้มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการขยายตลาดส่งออกของ
สับปะรดและผลไม้อื่นๆ ด้วยศักยภาพของศูนย์ฯที่ได้มาตรฐาน GMP จะทำให้ผลผลิตที่ผ่านกระบวนการของศูนย์ฯเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ดร.รจนา ตั้งกุลบริบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญ
นวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. ในฐานะผู้บริหารศูนย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน(
สับปะรด)
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ฯ จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2563 หลังได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP เพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตและจำหน่าย
สับปะรดผลสดที่มีคุณภาพตามมาตรฐานส่งออก นอกจากนี้ยังมีการจัดฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรตั้งแต่การเพิ่มปริมาณ
สับปะรดคุณภาพด้วยเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การแปรรูปผลผลิตทางเกษตรอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้ภารกิจของศูนย์ฯ ยังมีบทบาทในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม
สับปะรดคือ เป็นที่ปรึกษาให้แก่เกษตรกรในระดับต้นน้ำ การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการขั้นปลายน้ำเกี่ยวกับมาตรฐานของผลผลิตที่จะรับซื้อจากเกษตรกร การเป็นเสมือนตัวกลางในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับการวิจัยพัฒนาและโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูก
สับปะรด โดยผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว คือ การทำให้เกษตรกรผู้ปลูก
สับปะรดมีความสามารถในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลางและมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตสดมีการส่งออกไปยังต่างประเทศได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น