![กทม.เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำ ดูแลต้นไม้ ป้ายโฆษณาให้มั่นคงแข็งแรงรองรับพายุฤดูร้อน]()
กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--กรุงเทพมหานคร
นาย
ณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการ
สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวกรณี
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนหลายจังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ ระวัง
พายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 10 - 13 พ.ค. 63 ว่า กทม. โดยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหา
น้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศจากเรดาร์ตรวจอากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำของ กทม. เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนจาก
พายุฤดูร้อน โดยลดระดับน้ำในคลอง บ่อสูบ และแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำ สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวตามพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวัง
น้ำท่วม เร่งสูบน้ำในท่อและคลองด้วยเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ จัดหน่วย BEST ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบระบายน้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง
น้ำท่วม รื้อถอนสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ และประสานการไฟฟ้านครหลวงกรณีฉุกเฉินหรือไฟฟ้าดับ อีกทั้งประสานหน่วยงานภายนอกที่มีโครงการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และยังมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขอให้คืนพื้นที่ เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฯ ยังแจ้งให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์ฝนตกหรือจุดที่มีปัญหา
น้ำท่วม ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ Website http:// dds.bangkok.go.th Facebook : http://www.facebook.com/bkk.best Twitter : http://twitter.com/bkk_best/bkk best ศูนย์ป้องกัน
น้ำท่วม กทม. Line ID : @bkk_best และแอปพลิเคชัน กทม. Connect
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า สำนักการโยธา ได้แจ้งเจ้าของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้ป้ายเป็นประจำ หากป้ายถูกกฎหมาย แต่มีสภาพเก่าชำรุด อันอาจก่อให้เกิดภยันตราย ต้องมีคำสั่งให้เจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไขหรือให้รื้อถอน รวมทั้งดำเนินคดีกับป้ายที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน ป้ายที่ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเกินหนึ่งปี เจ้าของป้ายต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 นอกจากนั้น ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับป้ายทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากป้ายล้มในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือกลไว้ เพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากป้ายอีกด้วย
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า ในส่วนของสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขต 50 เขต ได้สำรวจ ตรวจสอบ และดูแลบำรุงรักษา
ต้นไม้ใหญ่ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง มีทรงพุ่มที่สมดุล ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรค สางโปร่ง เพื่อลดแรงปะทะลมและฝน ตัดลดความสูงลงตามความเหมาะสม ตรวจสอบวัสดุค้ำยันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีความมั่นคง สามารถพยุงค้ำยัน
ต้นไม้ใหญ่ได้ อีกทั้งได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก
กรมอุตุนิยมวิทยา และเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ ยานพาหนะ และเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานกรณีเกิดเหตุ
ต้นไม้หักโค่นล้มได้ทันที