กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--บียอนด์ ไออาร์
บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 รายได้ 98.79 ล้านบาท เพิ่ม 15.68% กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 13.87 ล้านบาท เติบโต 740.61% มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายแตะ 500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความงาม พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่าย ขยายตลาดต่างประเทศ
ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ, วิตามิน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ โดยไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 98.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.68% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการเติบโตของผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วิตามินรวมชนิดเม็ดฟู่ (Multivitamin), Probac ผลิตภัณฑ์สร้างสมดุลย์ให้กับลำไส้-ป้องกันโรคและชะลอวัย, Beta Glucan ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นเม็ดเลือดขาว, Astacurmin ผลิตภัณฑ์ต้านอนุมูลอิสระ เพื่อสุขภาพและชะลอวัยจากภายใน, PreBo ผลิตภัณฑ์ Holistic Nutrients for Bone เพื่อเสริมมวลกระดูกถึงระดับเซลล์ ให้กระดูกมีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมบูรณ์ และป้องกันโรคกระดูกพรุน ที่เติบโตสูงขึ้น โดยรวมแต่ละผลิตภัณฑ์เติบโตเฉลี่ย 2 - 5 เท่า
ขณะที่อัตราการทำกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 63.18% ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 54.99% เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนการขายซึ่งสอดคล้องยอดขายที่เพิ่มขึ้น และมีการลดค่าใช้จ่ายด้านกิจกรรมการตลาดบางรายการลง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A Costs) อยู่ที่ 44.4% ปรับลดลงจาก 52.59% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 13.87 ล้านบาท เติบโตขึ้น 740.61% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน เบื้องต้นมั่นใจว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2563 รายได้เติบโตแตะ 500 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบ 16 – 20% และอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 60% เทียบจากปีก่อนที่ 54.74% ภายใต้การบริหารจัดการด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการจำหน่ายสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IP บอกเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เตรียมนำเข้า Vitamune (ไวต้ามูน) และ ProImmo (โปรอิมโม้) ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน เข้ามาจำหน่ายในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพให้กับผู้บริโภค ตั้งเป้ายอดขายรวมสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ 50 - 60 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2563 ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์, ร้านขายยา, ซุเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น และเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมไปยังสหภาพยุโรป หลังจากปี 2562 ได้เริ่มขยายตลาดไปยังประเทศจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
“การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มอานิสงค์ให้กับสินค้าของบริษัทโดยตรง ทั้งวิตามินรวมเม็ดฟู่, Probac, Beta Glucan และ Astacurmin ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 2 - 5 เท่าจากช่วงเวลาปกติ” ดร.ทรงวุฒิ กล่าว