กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--สพร.19เชียงใหม่
วันนี้ (12-5-63) สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ มอบเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 ให้สถานประกอบกิจการที่ได้ดำเนินการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างของตนเกินร้อยละ 70 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด ซึ่งจำนวนลูกจ้างที่ได้รับการพัฒนาฝีมือแรงงานเกินร้อยละ 70 จะได้รับเงินช่วยเหลือหรือเงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน สองร้อยบาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน กลับคืนสู่บริษัท ได้แก่ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด มีลูกจ้างทั้งหมด ทั้งหมด 1,012 คน ส่วนที่พัฒนาฝีมือแรงงานเกินร้อยละ 70 ของลูกจ้างทั้งหมด คิดเป็น จำนวน 205 คน ได้รับเงิน จำนวน 41,000.-บาท และบริษัท เดสทีนี่ เอ็นเตอร์ไพร์ซ จำกัด มีลูกจ้างทั้งหมด 590 คน ส่วนที่พัฒนาฝีมือแรงงานเกินร้อยละ 70 ของลูกจ้างทั้งหมด คิดเป็น จำนวน 81 คน ได้รับเงิน จำนวน 16,200.-บาท นอกจากนี้ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด จำนวน 10,000 บาท เนื่องจากในปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด เป็นผู้ประกอบกิจการที่ได้รับรองมาตรฐานฝีมือของผู้ประกอบอาชีพ ตามมาตรา 26 ในสาขาอาชีพภาคบริการ สาขาช่างทันตกรรมเซรามิก ระดับ 1 และได้นำมาตรฐานฝีมือแรงงานดังกล่าวไปใช้ในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างของตน จึงมีสิทธิขอรับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนในแต่ละสาขาระดับละหนึ่งหมื่นบาท ตามประกาศคณะกรรมการการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อช่วยเหลือหรืออุดหนุนกิจการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน และให้เงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนการดำเนินการของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2560
นายสุรัตน์ ปาละนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เงินช่วยเหลือหรือเงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 ดังกล่าวนี้ เป็นสิทธิประโยชน์ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จูงใจ ส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างของตนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพมีทักษะฝีมือที่ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เมื่อบุคลากร ลูกจ้าง มีทักษะฝีมือที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ก็จะสามารถส่งเสริมให้องค์กรก้าวไปสู่การแข่งขันได้ในระดับสากล นำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กร โดยในส่วนของผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานอีกด้วย