![เกษตรฯ เตือนรับมือพายุฤดูร้อน แนะยังแล้งควรเลี่ยงการเพาะปลูกใหม่-ป้องกันผลผลิตเสียหาย]()
กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--
กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตร เตือน
เกษตรกรรับมือ
พายุฤดูร้อน แนะยังแล้งควรเลี่ยงการเพาะปลูกใหม่และป้องกันผลผลิตเสียหาย
นาย
เข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดี
กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากประกาศของ
กรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง
พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ที่คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 14 - 18 พฤษภาคม 2563 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่
กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอเตือนให้
เกษตรกรเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะผู้ปลูกไม้ผลให้ทำการตัดแต่งกิ่งเพื่อลดการปะทะของแรงลมพายุ ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้ผลหักโค่นเสียหายได้ง่าย และขอให้
เกษตรกรติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเริ่มเพาะปลูกใหม่ ถึงแม้ในช่วงนี้จะมี
พายุฤดูร้อน แต่จะยังมีสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง รวมทั้งประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน ดังนั้นการเริ่มเพาะปลูกช่วงนี้ อาจทำให้ต้นกล้าได้รับน้ำไม่เพียงพอ และเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือ
เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ
กรมส่งเสริมการเกษตรยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2562 โดยมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือ
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน
เกษตรกรกับ
กรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่น ๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ
เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียน
เกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ขอย้ำให้
เกษตรกรติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศจาก
กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบ และ
เกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ได้ ณ สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน