กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
ภาพรวมการแข่งขันทางการค้าในโลกของธุรกิจไอทีภายหลังสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ผ่านไป หลายองค์กรต้องประเมินความพร้อมด้านธุรกิจและด้านนโยบายต่าง ๆ ทั้งเงื่อนไขขีดความสามารถในการแข่งขัน การรองรับตลาดในยุคดิจิทัล กฎระเบียบด้านดิจิทัลของประเทศ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากนี้ เพื่อการขับเคลื่อนองค์กรสู่ New Normal และ Digital Age เต็มตัว สำหรับ SVOA พร้อมประกาศโครงสร้างคณะผู้บริหารใหม่ ประกอบด้วย
นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอที บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)นายอดิศร แก้วบูชา ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัดดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์วิกฤต COVID-19 เริ่มผ่านพ้นช่วงเวลาที่หนักไปแล้ว แต่แน่นอนว่าภาครัฐและภาคเอกชนยังต้องเฝ้ารอจังหวะที่เหมาะสมในการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก จะเห็นว่าช่วงแรกของวิกฤตหน่วยงานภาครัฐและองค์กรธุรกิจมีการปรับตัวโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการประชุมในรูปแบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ การเว้นระยะห่างทางสังคมโดยทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อให้ธุรกิจและวิถีชีวิตยังสามารถดำเนินต่อไปได้ สำหรับการปรับตัวดังกล่าวขององค์กรและพฤติกรรมของผู้บริโภคยังก่อให้เกิดตลาดใหม่ หรือ Next New Normal ซึ่งหลังสิ้นสุดวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว เชื่อว่าตลาดใหม่ที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพเชิงการแข่งขันขององค์กรต่อไป
สำหรับ SVOA เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครบวงจร มีเครือข่ายในการให้บริการที่ครอบคลุมทุกบริการด้านไอที ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเด่นคือพันธมิตรธุรกิจและคู่ค้ามีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้การนำของคณะผู้บริหารใหม่ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายแผนการดำเนินงานเชิงรุกและกลยุทธ์ธุรกิจ จะสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่ Next New Normal และก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างเต็มรูปแบบ
โดย บริษัทและทีมคณะผู้บริหารพร้อมนำเทคโนโลยีเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนองค์กรธุรกิจต่าง ๆ หน่วยงานภาครัฐ ที่มีศักยภาพ และจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของ SVOA อันยาวนานเกือบ 40 ปี จะส่งเสริมให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง โดยปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่มุ่งเน้น ประกอบด้วย สินค้าและบริการไอทีครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำ สินค้าเกมมิ่งที่ครอบคลุมทั้ง โน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป อุปกรณ์คอมโพเนนท์ ไปจนถึงเก้าอี้เกมมิ่ง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นอีกตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีโรโบติกส์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษา อุตสาหกรรม และการบริการ รวมทั้งโซลูชั่นสำหรับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้บริโภค
ด้าน นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า บริษัทมุ่งเดินหน้าเน้นการพัฒนาธุรกิจอยู่บนแพลตฟอร์ม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ก้าวสู่นวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัล สานต่อเรื่องของปัญญาประดิษฐ์สู่อนาคต “Step of Evolution” ตอบสนองการบริการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร ผ่านตัวแทนร้านค้าปลีก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นตลาดโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก
บริษัทได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการเรียนการสอนหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ สนับสนุนให้เด็กไทยต้องได้เรียนโค้ดดิ้ง พร้อมทั้งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับครูและนักเรียน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเรียนรู้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต
สำหรับธุรกิจช่องทางจัดจำหน่าย (IT Distribution) บริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบ การจำหน่ายหุ่นยนต์สำหรับภาคการศึกษา หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ ในทุกช่องทางการกระจายสินค้า และธุรกิจการขายส่งให้ทั่วทุกภูมิภาค พร้อมกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำ และบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงการวางกลยุทธ์แบบผสมผสานสร้างความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อเป็นการสร้างการซื้อซ้ำและต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย
ด้าน นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอที บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ SVOA มีจุดแข็งค่อนข้างมากในการนำเสนอโครงการไอทีแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรให้กับหน่วยงานราชการ และปัจจุบันหน่วยงานราชการในหลาย ๆ กระทรวงล้วนมีความต้องการในการวางระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการให้บริการที่ดีและทั่วถึง โดยบริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานราชการในทุกระบบและทั้งโซลูชั่นตามการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานรัฐได้บรรลุเป้าหมายการให้บริการประชาชน และขับเคลื่อนไปตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล
ด้าน นายอดิศร แก้วบูชา ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่มธุรกิจราชการแล้ว ในภาคธุรกิจธนาคารและประกันภัย ทางบริษัทให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจะนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อมุ่งตอบสนองต่อธุรกิจธนาคารของการให้บริการสมัยใหม่ และธนาคารจำเป็นต้องใช้ข้อมูลยุคใหม่ที่กำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ธนาคารต่าง ๆ ต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงานและให้บริการทางธุรกรรม ทั้งการโอนเงินระหว่างธนาคารในประเทศ และการโอนเงินระหว่างธนาคารในภูมิภาค ซึ่งบริษัทจะเข้าไปตอบโจทย์ตรงนี้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจประกันภัย ล้วนต้องปรับตัวเรื่องการให้บริการกับลูกค้าจากสาขาประกันภัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเช่นกัน
ด้าน นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของบริษัทจะเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงการบริการรูปแบบใหม่ โดยไม่ต้องขอข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน แต่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของตนผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ซึ่งบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการลงทะเบียนพิสูจน์ยืนยันตัวตนออนไลน์ (e-KYC) โดยมีการใช้เทคโนโลยี Biometric ในการตรวจสอบใบหน้าเพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยมากขึ้น หรือการใช้ดิจิทัลไอดีผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเช่น บริษัท NDID โดยมีการบริการตั้งบล็อกเชนโหนดให้แก่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเชื่อมเข้าสู่เครือข่ายยืนยันตัวตนข้ามองค์กร (cross verification) ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมสะดวกมากขึ้น เช่น การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ หรือการเปิดบัญชีการลงทุนทางออนไลน์ รวมถึงการยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตในการขอสินเชื่อออนไลน์
นอกจากนี้เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษและการนำส่งเอกสารสำคัญ องค์กรสามารถทำสัญญาหรือลงนามเอกสารสำคัญต่าง ๆ ผ่านระบบ Document Signing ซึ่งก็คือแอพพลิเคชั่นออนไลน์ โดยสามารถสร้างเทมเพลต PDF และระบุตำแหน่งลายเซ็น และ Workflow ของผู้ที่ต้องลงนามตามลำดับชั้น ส่งไปยังผู้ลงนามผ่านช่องทางออนไลน์และลงนามด้วย Digital Certificate โดยเทคโนโลยี Public Key Infrastructure นี้ได้รับมาตรฐานสากล ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเอกสารนั้นได้มีการลงนามอย่างถูกต้องและมีผลตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย
รวมทั้งระบบการกู้ยืมดิจิทัลที่ช่วยให้ธนาคารและ Fintech เข้าถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์สอดคล้องกับแนวโน้มการลดสาขาของธนาคารในปัจจุบันและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา
ด้าน ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีเครดิตและความแข็งแกร่งทางการเงิน มีเสถียรภาพโดยไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากวิกฤต COVID-19 รวมทั้งบริษัทมีธนาคารมากกว่า 10 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศให้การสนับสนุนทางการเงิน ทั้งนี้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดจากวิกฤต และความท้าทายของธุรกิจในอนาคต ฝ่ายการเงินและบัญชีเป็นแหล่งข้อมูลเชิงกลยุทธ์แก่หน่วยธุรกิจต่าง ๆ เช่น การให้ข้อมูลการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการเงินทุนหมุนเวียนและประเมินศักยภาพทางการเงินของงานโครงการต่างๆ เน้นการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดและบริหารจัดการอัตราส่วนหนี้สินต่อสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีเอื้อต่อความแข็งแกร่งและการเติบโตของกลุ่ม SVOA
“โครงสร้างผู้บริหารใหม่ดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานกับนักบริหารรุ่นใหม่โดยจะทำงานประสานรวมกันอย่างมืออาชีพ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ SVOA เติมโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นางสาวกุลภา กล่าวทิ้งท้าย