กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
20 พ.ค. 63 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 17 พ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน (20 พ.ค. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 14 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน แพร่ ลำปาง และลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ สุรินทร์ และอำนาจเจริญ ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานีสิงห์บุรี และราชบุรี รวม 23 อำเภอ 34 ตำบล 80 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 464 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุไซโคลน “อำพัน” บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันในช่วงวันที่ 17 พ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน (20 พ.ค. 63) ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 14 จังหวัด รวม 23 อำเภอ 34 ตำบล 80 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 464 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน แพร่ ลำปาง และลำพูน รวม 5 อำเภอ 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 106 หลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ สุรินทร์ และอำนาจเจริญ รวม 13 อำเภอ 24 ตำบล 54 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 276 หลัง ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี และราชบุรี รวม 5 อำเภอ 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 82 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป