กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
นิสสันเอาใจคนรักรถ แนะนำเคล็ดลับในการดูแลรักษาสภาพรถยนต์ที่ต้องจอดนิ่งในช่วงที่ต้องทำงานจากที่บ้าน
ในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้อง Work from Home หรือทำงานจากที่บ้าน เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคมและลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นออกไป พาหนะคู่ใจที่ถูกจอดทิ้งไว้ก็ยังคงต้องการการดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
เพื่อแบ่งปันทิปส์ดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ในช่วงเวลาที่ต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ แบบนี้ นิสสัน จึงขอเสนอเคล็ดลับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการปกป้องดูแล ให้รถคุณคงสภาพดีและรักษามูลค่าของรถ นอกจากนี้ นิสสัน ผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ยังมีเคล็ดลับพิเศษเพื่อช่วยให้คุณดูแลรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาอีกด้วย ข้อมูลดี ๆ แบบนี้ คนรักรถทั้งหลายไม่ควรพลาด ไปอ่านกันได้เลย!
ดูแลรักษาความสะอาดทั้งภายในและภายนอกของรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ
เช่นเดียวกับการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของของตัวเราเองและบ้านเรือนที่เราอาศัยอยู่ รถยนต์ของเราก็ควรได้รับการดูแลเรื่องความสะอาดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน สิ่งสำคัญในช่วงนี้ คือ เราควรทำความสะอาดรถยนต์ทั้งภายในและภายนอก และหมั่นล้างมือทั้งก่อนและหลังนำรถออกไปใช้ โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ และน้ำสะอาดในการทำความสะอาดภายในรถ โดยเอาใจใส่ในจุดที่ต้องสัมผัสบ่อยครั้ง อาทิ พวงมาลัย เกียร์ เบาะที่นั่ง ที่จับประตู และแผงคอนโซลหน้ารถ แต่ไม่ควรใช้สารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดภายในรถยนต์ เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับวัสดุบุภายในได้[1] นอกจากนี้ คุณและสมาชิกในครอบครัวยังสามารถใช้เวลาร่วมกันในการทำความสะอาดรถคู่ใจและยังถือเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ อีกด้วยเช็คน้ำมันรถและน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ
แม้ว่าจะไม่ได้ใช้รถบ่อยครั้งในช่วงนี้ แต่คุณควรเติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปสะสมอยู่ในระบบจ่ายเชื้อเพลิง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อรถของคุณ
สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV นั้นจะมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างไปเล็กน้อย โดยไม่ควรชาร์จไฟให้รถมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ลิเธียม-อิออนเสื่อมเร็วขึ้น สำหรับระดับแบตเตอรี่ที่แนะนำสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่จอดไว้เป็นเวลานาน คือ ตั้งแต่ 40 เปอร์เซ็นต์ ถึง 80 เปอร์เซ็นต์[2] โดยสามารถปรับลดระดับการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดไม่เกิน 65 - 75 เปอร์เซ็นต์[3] และชาร์จทิ้งไว้ขณะที่จอดอยู่กับที่เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมดสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง
เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิของเครื่องยนต์ขึ้นถึงระดับทำงานปกติก่อนดับเครื่องเพื่อให้เครื่องยนต์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และหากเป็นไปได้ ก็ควรนำรถของคุณออกไปขับวนแถวบ้านหรือออกไปซื้อของใช้จำเป็น จริงอยู่ว่าในขณะนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่การออกจากบ้านบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อไปซื้อของใช้หรือทำธุระจำเป็น ก็ถือเป็นการผ่อนคลายและเสริมสร้างสุขภาพกายและใจให้ดีขึ้นในช่วงเวลาการกักตัวและทำงานจากที่บ้านได้เป็นอย่างดีปกป้องรถของคุณจากสภาพแวดล้อมต่างๆ
หากเป็นไปได้ ควรใช้ผ้าคลุมรถเพื่อปกป้องแสงแดดและความร้อนที่อาจทำร้ายสีรถได้ โดยเฉพาะรถที่จอดไว้บริเวณนอกอาคารที่ไม่มีหลังคาหรือที่กำบัง นอกจากนี้ ควรตรวจเช็คดันลมยางให้มีแรงดันอยู่ระหว่าง 30-35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว[4] เพื่อให้รถยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อต้องใช้งาน เคล็ดลับเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถเครื่องยนต์ไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่ามองข้ามการตรวจเช็คระยะและเข้ารับการบริการพื้นฐาน
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานและรักษามูลค่าให้รถของคุณ ในช่วงที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเช่นนี้ นิสสัน ได้ริเริ่มโครงการ “Care for You แทนความห่วงใยจากนิสสัน” ที่มอบความสะดวกสบายเหนือชั้นพร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยบริการเช็คระยะนอกสถานที่และการบริการรับรถถึงที่บ้านลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำการจองเพื่อส่งรถนิสสันของคุณเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 28 รายการ ครอบคลุมการตรวจเช็คเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือนของรถ ระบบส่งกำลัง และระบบไฟฟ้า ที่สำคัญ คือ รถยนต์นิสสันของลูกค้าทุกคันจะได้รับการบริการโดยพนักงานที่สวมอุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมมีการดูแลเรื่องความสะอาดเมื่อส่งมอบรถยนต์ เพื่อให้ถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ลูกค้าทุกคนจะได้รับหน้ากากอนามัยเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเข้ารับบริการอีกด้วย
กรณีที่รถยนต์ของคุณต้องการการดูแลเพิ่มเติม โชว์รูมและศูนย์บริการชั้นนำรวมถึงนิสสัน ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และพร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกตามวันและเวลาทำการ โดยสามารถติดต่อเพื่อเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการคอลล์ เซ็นเตอร์ ของนิสสัน โทร 0-2401-9600
ในกรณีที่ต้องการนำรถเข้ามาที่ศูนย์บริการในช่วงนี้ โชว์รูมและศูนย์บริการของนิสสันทั่วประเทศ มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาดทุก 30 นาที การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทั้งพนักงานผู้ปฏิบัติงาน และ ลูกค้าที่เข้ารับบริการทุกคน นอกจากนี้พนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ทั้งยังมีจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือเพื่อบริการลูกค้าอย่างเพียงพอ รวมไปถึงการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดรถยนต์บริเวณจุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น พวงมาลัย เกียร์ เบาะที่นั่ง มือจับประตู และคอนโซลหน้า เป็นต้น
ด้วยมาตรการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีการใช้งานรถยนต์น้อยลง ซึ่งการจอดรถยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ อาจก่อเกิดปัญหาได้ในภายหลัง การปฏิบัติตามเคล็ดลับทั้ง 5 ข้อนี้ จะช่วยยืดอายุและดูแลรักษาสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพและคำนึกถึงความปลอดภัยในช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเลี่ยงการพบปะกับผู้คนจำนวนมากที่ไม่จำเป็น หมั่นล้างมือทำความสะอาด และสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ และที่สำคัญ อย่าลืมดูแลคนและสิ่งที่คุณรัก เพราะเราจะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกัน
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการตรวจเช็คระยะนอกสถานที่ บริการรับรถถึงที่บ้าน รวมถึงบริการหลังการขายอื่น ๆ ของนิสสัน ได้ที่เว็บไซต์ https://www.nissan.co.th/owners/service-promotion/care-for-you.html
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 11 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้