กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ชมฉวีวรรณ
ทีเอ็มบี ผู้นำแนวคิด Make REAL Change ชวนตั้งรับเชิงรุกปรับมุมมองไม่พลาดโอกาสการลงทุน และสิทธิการลดหย่อนภาษีเพิ่มตามเกณฑ์กรมสรรพากร แนะศึกษาข้อมูลและลงทุนด้วยความระมัดระวัง กระจายความเสี่ยง พร้อมมองผลตอบแทนระยะยาว เล็งจังหวะราคาหุ้นลดลงมีความคุ้มค่าน่าสนใจ คัดกองทุน SSFX คุณภาพ จาก 2 บลจ. ชั้นนำมาให้เลือกตามสไตล์การลงทุน พร้อมเจาะลึกกองทุน “UOBEQ-SSFX” จาก บลจ. ยูโอบี ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสทำกำไรในระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพ และกองทุน “T-ES-EQDSSFX” จาก บลจ. ธนชาต อีสท์สปริง เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 ที่มีพื้นฐานดี กับโอกาสได้รับปันผลแบบระยะยาว เพื่อช่วยสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
นางกิดาการ ชัฏสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างมาก ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันราคาหุ้นไทยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งเหมาะแก่การเข้าลงทุนเพื่อหวังผลทำกำไรในระยะยาว
ทีเอ็มบี จึงได้คัดสรร 2 กองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ หรือ Super Savings Fund Extra จาก 2 บลจ.พันธมิตรชั้นนำ คือ กองทุน UOBEQ-SSFX จาก บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสทำกำไรในระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพ ที่จะลงทุนในแต่ละอุตสาหกรรมที่คิดว่าจะสามารถทำผลงานได้ดีในอนาคต เช่น การเติบโตของรายได้และกำไร และเงินปันผล รวมถึงความแข็งแรงของบริษัทโดยดูจากงบการเงิน พร้อมทั้งผู้จัดการกองทุนจะทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค (technical analysis) เข้ามาช่วยในการพิจารณาจังหวะการซื้อ-ขาย เป็นต้น และ กองทุน T-ES-EQDSSFX จาก บลจ. ธนชาต อีสท์สปริง ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 ที่มีพื้นฐานดี เนื่องจากคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีกว่าตลาดโดยรวม และเป็นหุ้นกลุ่มแรก ๆ ที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุน เน้นหุ้นที่ระดับราคา (Valuation) เหมาะสม เพื่อโอกาสในการรับปันผลแบบระยะยาว
อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้ว ทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวฯ สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว และยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ลงทุนได้ออมเงินในระยะยาว แถมยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์กรมสรรพากร อย่างไรก็ดี กองทุนดังกล่าวฯมีเงื่อนไขพิเศษให้ผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนภายใน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 63 ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 200,000 บาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน SSF แบบปกติ) โดยมีระยะเวลาการถือครอง 10 ปี นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน
โดยนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tmbbank.com/tmbadvisory หรือ โทรสอบถามได้ที่ TMB Investment Line โทร. 1558 กด # 9 หรือ เริ่มลงทุนได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน ทัช (TOUCH) เฉพาะผู้ที่ถือกองทุน LTF/RMF ของ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) หรือ บลจ.ธนชาต อีสท์สปริง และธนาคารทีเอ็มบีทุกสาขา ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
“ทีเอ็มบีมีโซลูชันที่พร้อมจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อกองทุนได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น โดยได้คัดกองทุนคุณภาพจากหลากหลาย บลจ. ชั้นนำ มาให้นักลงทุนเลือกซื้อได้ตามความต้องการแบบครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ทำให้ไม่ต้องยุ่งยาก เสียเวลาติดต่อทำธุรกรรมกับหลาย บลจ. ซึ่ง ทีเอ็มบีอยากชวนให้ใช้จังหวะนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการปรับมุมมองสู่การลงทุนตั้งรับเชิงรุก ด้วยความเข้าใจและความระมัดระวัง เพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น หรือ Financial Well-being” นางกิดาการ กล่าวสรุป
#TMB #MakeREALChange