กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--กรุงเทพมหานคร
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่ก่อให้เกิดขยะจำนวนมาก ทั้งขยะอาหาร ขยะพลาสติก และขยะติดเชื้อ ซึ่งอาจกลายเป็นภัยร้ายต่อชุมชนว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกและใช้ประโยชน์มูลฝอยที่แหล่งกำเนิดมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทั้งในสถานการณ์ปกติและในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดการคัดแยกมูลฝอยเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1) มูลฝอยอินทรีย์ 2) มูลฝอยทั่วไป 3) มูลฝอยรีไซเคิล และ 4) มูลฝอยอันตราย โดยมูลฝอยรีไซเคิลและมูลฝอยอันตรายที่มีการคัดแยกจากประชาชน จะแยกจัดเก็บในช่องรองรับมูลฝอยรีไซเคิลและมูลฝอยอันตรายบริเวณด้านหลังคนขับของรถเก็บขนมูลฝอย ไม่ปะปนกับมูลฝอยทั่วไป ขณะเดียวกันได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนคัดแยกมูลฝอยหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการหน้ากากอนามัยใช้แล้ว กรุงเทพมหานครได้ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงการทิ้งขยะหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งปะปนกับมูลฝอยทั่วไปในครัวเรือน โดยพับหน้ากากอนามัยใส่ถุงที่ปิดสนิท มัดปากถุงให้แน่น เขียนหรือติดหน้าถุงว่า “หน้ากากอนามัย” แยกทิ้งให้รถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขตหรือทิ้งในถังรองรับหน้ากากอนามัยเฉพาะ (สีส้ม) ในจุดที่กรุงเทพมหานครกำหนด พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานประกอบการ และอาคารต่าง ๆ ในการตั้งวางถังรองรับหน้ากากอนามัยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอยและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกรุงเทพมหานครจะดำเนินการเก็บรวบรวมและนำไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะต่อไป ในส่วนของขยะพลาสติกจากภาชนะบรรจุอาหารเดลิเวอรี่ที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ให้ประชาชนคัดแยกขยะพลาสติกเพื่อขายหรือบริจาค ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะที่กรุงเทพมหานครต้องเก็บขนและกำจัดอีกทางหนึ่ง อีกทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกอีกด้วย