กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนและต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังสภาพคล่องของภาคธุรกิจและครัวเรือนไทย ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการรวมใจไม่ทิ้งกัน เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินและช่วยประคับประคองลูกค้าของธนาคารให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ ไปด้วยกัน โดยในปัจจุบันได้ช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจไปแล้ว 80,229 ราย ยอดหนี้กว่า 393,906 ล้านบาท และช่วยเหลือลูกค้าบุคคล 297,800 ราย ยอดหนี้ 186,850 ล้านบาท
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยติดตามดูแลสถานการณ์ลูกค้าของธนาคาร ทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลรายย่อย อย่างใกล้ชิด และได้เริ่มให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการของธนาคารเองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา โดยมีการปรับลดภาระผ่อนชำระต่อเดือน พักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ตลอดจนปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ทั้งในส่วนของธนาคารออมสินและธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือลูกค้า ดังนี้
ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจไปแล้ว เป็นจำนวน 80,229 ราย คิดเป็นยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือกว่า 393,906 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อยไปแล้ว เป็นจำนวน 297,800 ราย คิดเป็นยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 186,850 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าสินเชื่อบ้าน สินเชื่อที่มีหลักประกัน และสินเชื่อบัตรเครดิต
การให้สินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้โครงการ Soft Loan ของธนาคารออมสินและธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงที่ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้เอง เป็นจำนวน 21,000 ราย รวมยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือประมาณ 42,000 ล้านบาท โดยใช้ บสย. ค้ำประกันจำนวน 34,000 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 8,000 ล้านบาท (ยอดสิ้นสุด 18 พ.ค. 2563)
นอกจากนี้ธนาคารยังมีโครงการให้ความช่วยเหลือธุรกิจ ให้สามารถรักษาการจ้างพนักงานที่มีรายได้น้อยให้อยู่รอดในภาวะวิกฤตนี้ 2 โครงการ คือ โครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” เป็นการลดดอกเบี้ยให้เจ้าของธุรกิจ เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินดือนพนักงาน โดยธนาคารกับเจ้าของธุรกิจช่วยกันจ่ายเงินเดือนให้พนักงานคนละครึ่ง และโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นโครงการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กให้รักษาการจ้างพนักงาน โดยธนาคารให้เงินทุน ดอกเบี้ย 0% 10 ปี ไม่มีค่าธรรมเนียม ปีแรกไม่ต้องผ่อนชำระ โดยหวังว่าทั้ง 2 โครงการจะช่วยผู้ประกอบการให้ยังคงมีการจ้างงานต่อเนื่องได้ถึง 56,000 คน
นายปรีดี กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ รวมถึงการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป