กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--เอ็ม เอส แอล ประเทศไทย
กองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19” เดินหน้าสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขไทยต่อเนื่อง มอบอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลศิริราช มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท
ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ภายในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย กลุ่มมิตรผล และ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ยังคงให้ความสำคัญ
กับการเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่นับว่าเป็นแนวหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดนี้ โดยกองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19” นำโดยคุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มมิตรผล ได้เข้ามอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลศิริราชและศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ประกอบไปด้วย เครื่อง CT Scan NeuViz 128 จำนวน 1 เครื่อง, ห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก เพื่อตรวจคัดกรองผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 2 ห้อง, เตียงคนไข้ไฟฟ้าและชุดข้างเตียง 20 เตียง, หน้ากาก N95 ทางการแพทย์ 15,550 ชิ้น, หน้ากากอนามัย 850 ชิ้น, ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 5,950 ชิ้น และ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 20,000 ลิตร รวมมูลค่าทั้งหมด 23 ล้านบาท
คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงการมอบอุปกรณ์การแพทย์ในครั้งนี้ว่า “แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่เรายังไม่สามารถวางใจได้ ต้องเตรียมความพร้อมไว้อยู่เสมอ กลุ่มมิตรผลและบ้านปู จึงยังคงเดินหน้าสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็น โดยมีทั้งอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
ทั้งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศเกาหลีใต้อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทุน “มิตรผล-บ้านปู” ได้จัดซื้อและมอบอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท โดยในวันนี้เราได้ร่วมมอบอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างเช่นเครื่อง CT Scan NeuViz 128, ห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก, เตียงคนไข้ไฟฟ้าและชุดข้างเตียง รวมทั้งเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ให้แก่โรงพยาบาลศิริราชและศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกเพื่อใช้รองรับและดูแลผู้ป่วย COVID-19 ต่อไป”
ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่เราก็ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดการแพร่ระบาดซ้ำขึ้นอีกเมื่อไร เพราะฉะนั้น อุปกรณ์ทางการแพทย์จึงจำเป็นต้องมีเพียงพอและพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน วันนี้ต้องขอขอบคุณกองทุน “มิตรผล-บ้านปู” ที่ยังคงดำเนินการเพื่อสาธารณสุขของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญและสามารถใช้ได้กับสถานการณ์ปกติต่อไป อย่างห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก (Bidirectional Negative / Positive COVID-19 Virus Sample Testing Booth) นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ที่นำมามอบในวันนี้ เป็นห้องที่ใช้สำหรับตรวจวินิจฉัย (Swab) โดยแพทย์ผู้ตรวจไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการตรวจวินิจฉัยได้ และแพทย์ผู้ตรวจจะสามารถกำหนดก่อนติดตั้งได้ว่าจะให้เป็นห้องความดันลบหรือบวกเพื่อให้ตรงกับความต้องการในการใช้งาน นอกจากนั้นยังมี เครื่อง CT Scan รุ่นเฉพาะที่จะช่วยให้การตรวจวินิจฉัยมีประสิทธิภาพรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้การช่วยชีวิตคนไข้เป็นไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งเครื่องมือทางการแพทย์ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจรักษาการติดเชื้อ COVID-19 แล้วนั้น เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ยังสามารถนำมาใช้ตรวจและวินิจฉัยโรคในระบบทางเดินหายใจได้ต่อไป”
ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จนถึงปัจจุบัน กองทุน “มิตรผล-บ้านปู” ได้ดำเนินการจัดหาและส่งมอบอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2563 มีการส่งมอบห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก จำนวน 20 ห้อง มูลค่า 7,600,000 บาท ให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำส่งไปยังโรงพยาบาล 16 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อสานต่อพันธกิจของกองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19” ในการเป็นกองกำลังสำคัญเพื่อช่วยให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤติครั้งสำคัญนี้
บุคคลในภาพ (จากซ้าย-ขวา)
รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร และกิจกรรมเพื่อสังคมศ.นพ.ธวัชชัย อัครวิพุธ รองคณบดีฝ่ายบริหารรศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลคุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท กลุ่มมิตรผลรศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกคุณวรวัฒน์ ศรียุกต์ ผู้อำนวยการด้านบริหารองค์กรเพื่อความยั่งยืนนพ.นิมิตร ทองพูลสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก
เกี่ยวกับ กองทุนมิตรผล - บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19
กองทุนมิตรผล - บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19 มูลค่า 500 ล้านบาท จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มมิตรผล และบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยปัจจุบัน กองทุนมิตรผล-บ้านปู ได้จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขกว่า
100 แห่งทั่วประเทศ โดยในอนาคต กลุ่มมิตรผล และบ้านปูฯ ยังมีความตั้งใจที่จะสานต่อพันธกิจในการนำเงินกองทุนสนับสนุน กองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19” ไปช่วยเหลือและเป็นหนึ่งในกองกำลังสำคัญต่อการสนับสนุนให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตินี้ไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว การสนับสนุนโดยกลุ่มมิตรผล (ภายใต้กองทุนกลุ่มมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19)
ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในประเทศไทย จนถึงปัจจุบัน กลุ่มมิตรผลได้จัดหาและมอบเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต่างๆ อาทิ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อจากเอทานอลบริสุทธ์และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 400,000 ลิตร ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) รวมถึงสถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ กว่า 160 องค์กร และปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างส่งมอบอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติม ได้แก่ ห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก 20 ห้อง, เครื่อง CT-Scan 3 เครื่อง,เครื่องช่วยหายใจ 4 เครื่อง, เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด 6 เครื่อง, หน้ากากอนามัย N95 30,000 ชิ้น, หน้ากาก Surgical Mask 10,000 ชิ้น, หน้ากากผ้ามัสลิน 400,000 ชิ้น, ชุด PPE 10,000 ชุด, เตียงผู้ป่วย 32 เตียง ให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ การสนับสนุนโดยบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (ภายใต้กองทุนกลุ่มมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19)
ในขณะเดียวกัน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือที่จำเป็นและเร่งด่วนแก่โรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ทุน 30 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อการสร้างและปรับปรุงห้องความดันลบ และจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ, 5 ล้านบาท แก่แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อการจัดทำประกันชีวิตให้แก่แพทย์และพยาบาลทั่วประเทศกว่า 280,000 ราย, 2 ล้านบาท แก่สภากาชาดไทย เพื่อร่วมสมทบทุนในการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าจำนวน 10 ล้านชิ้น และจัดชุด 'ธารน้ำใจ กู้ชีวิต’ จำนวน 180,000 ชุด รวมถึงการสนับสนุนโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดอุณหภูมิ การปรับปรุงระบบปรับอากาศสำหรับหอพักผู้ป่วย รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันตนเองให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ให้กับศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก จ.นครปฐม โรงพยาบาลสนามชัยเขตและโรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าและโรงพยาบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี และโรงพยาบาลสทิงพระ จ.สงขลา มูลค่ารวมกว่า 13 ล้านบาท, การสั่งผลิตหน้ากากผ้านาโนกันไรฝุ่นจำนวน 1,500,000 ชิ้น เพื่อกระจายสู่ประชาชนทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังเตรียมการมอบหน้ากากอนามัย N95 และอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย(PPE) แก่โรงพยาบาลประจำอำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ชุมชนในจังหวัดปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักด้านการทำมาหาเลี้ยงชีพ