ปลูกกะหล่ำปลีให้ประสบผลสำเร็จในแบบฉบับของผู้ใหญ่ใจ

ข่าวทั่วไป Wednesday May 27, 2020 11:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ใกล้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวอย่างภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ด้วยบรรยากาศของไร่กะหล่ำปลีสวยๆ ที่คุ้นเคยกันดี ด้วยช่วงนี้เข้าใกล้ฤดูกาลปลูกหลักของกะหล่ำปลี ซึ่งระยะเพาะกล้าจะเริ่มในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแก่การเพาะปลูกกะหล่ำปลี เจียไต๋ จึงขอเผยความสำเร็จในการปลูกกะหล่ำปลีในแบบฉบับของผู้ใหญ่ใจ เกษตรกรแห่งภูทับเบิก ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกกะหล่ำปลี ด้วยการให้ความสำคัญในการคัดเลือกสายพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ที่ดี และยังส่งต่อภูมิปัญญาแก่กลุ่มเพื่อนเกษตรกร เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการเพาะปลูก และให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้สำหรับระยะเพาะกล้าที่กำลังจะมาถึงนี้ นายใจ แซ่เถา หรือผู้ใหญ่ใจ เกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญในการปลูกกะหล่ำปลีที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี กล่าวว่า “เมื่อก่อนกะหล่ำปลีปลูกได้ดีเฉพาะฤดูหนาว แต่ไม่ค่อยทนโรค ทนฝน เริ่มแรกปลูกด้วยสายพันธุ์เดิมๆ แต่เมื่อรู้จักเจียไต๋ จึงได้ทดลองใช้เมล็ดพันธุ์ และพบว่ามีการพัฒนาสายพันธุ์จนสามารถทนร้อน ปลูกได้ในทุกฤดูกาล และเกือบทุกภูมิประเทศ จึงเลือกใช้เมล็ดพันธุ์กะหล่ำปลีเจียไต๋มาโดยตลอด ด้วยความประทับใจที่เจียไต๋ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจกับคุณภาพเมล็ดพันธุ์จากเจียไต๋ที่การันตีว่าดีทั้งในแง่การเพาะปลูกและคุณภาพของผลิตผลที่ได้กะหล่ำปลีสวย รสชาติหวาน กรอบ อร่อย และที่สำคัญตลาดให้การยอมรับด้วยยอดสั่งซื้อ 100%” สายพันธุ์กะหล่ำปลีเจียไต๋ ที่เกษตรกรนิยมปลูก T523 – แข็งแรงทนโรค ปลูกได้ทุกพื้นที่ เก็บแขนงได้ กะหล่ำปลี T-523 ทนโรค ทนฝน สามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพการเพาะปลูก ปลูกแล้วได้ผลิตผลแน่นอน จุดเด่นคือ เป็นสายพันธุ์ที่สามารถเก็บแขนงได้ และยังเป็นที่ต้องการของตลาดโดยทั่วไป มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้าT530 – ห่อหัวแน่น น้ำหนักดี ทนขนส่ง ปลูกได้ทุกฤดู กะหล่ำปลี T-530 สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้เร็ว ห่อหัวแน่น น้ำหนักดี ผลิตผลต่อไรสูง ทนโรคและทนฝน อีกทั้ง ยังทนต่อการขนส่ง เป็นที่ต้องการของตลาด มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้าPassion – ปลูกง่าย ทนโรค หัวใหญ่ กะหล่ำปลี Passion สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ประกอบอาหารได้หลากหลายโดยให้รสชาติดี หรือทานสดเป็นผักเคียง สายพันธุ์นี้ต้อบโจทย์ได้หมด จึงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะร้านอาหาร ภัตตาคาร ทนโรค มีอายุเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า สายพันธุ์ทั้งหมดข้างต้นเป็นสายพันธุ์ที่เจียไต๋ได้พัฒนาร่วมกับบริษัท TAKII Seed Co., Ltd. ผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์ระดับโลกของประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงพันธุ์และทดสอบจนได้สายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อการปลูกในแต่ละพื้นที่ ฤดูกาลที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก ช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม ถึง กันยายน) เป็นฤดูกาลหลักของกะหล่ำปลี เพราะเกษตรกรที่ปลูกบนดอยอาศัยน้ำฝนเป็นหลักในการเจริญเติบโตของกะหล่ำปลี ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มเพาะกล้าในช่วงพฤษภาคมช่วงปลายฝนต้นหนาว (สิงหาคม ถึง พฤศจิกายน) จากแปลงที่ปลูกในฤดูฝน เกษตรกรจะลงปลูกรอบต่อไปเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวต่อช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์) พอหมดช่วงฤดูฝนและเข้าฤดูหนาว เกษตรกรก็จะเริ่มย้ายลงมาปลูกบนพื้นราบที่อยู่บนดอย เพื่อหาพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ เนื่องจากบนเขาสูงไม่สามารถปลูกได้เพราะน้ำไม่เพียงพอ ปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ไร่ ใช้ 1 กระป๋อง (50 กรัม) สามารถปลูกได้ประมาณ 10,000-12,000 ต้น ผลิตผลต่อไร่ (ปริมาณผลิตผลขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เพาะปลูก) ฤดูฝน โรคแมลงจะเยอะ ได้ผลิตผลประมาณ 6-7 ตันฤดูหนาว โรคแมลงไม่ค่อยมี ได้ผลิตผลประมาณ 8-10 ตัน “ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ควบคู่กับการสนับสนุนที่ดีจากเจียไต๋ ทำให้ผมก้าวมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้” ผู้ใหญ่กล่าว ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ใจไม่เก็บความสำเร็จไว้เพียงผู้เดียว หากส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนด้วยการขยายการปลูกกะหล่ำปลี สู่เครือข่ายเพื่อนเกษตรกร ทั้งยังเป็นแกนนำในการเจรจาธุรกิจเพื่อกระจายผลิตผลสู่ตลาดรายใหญ่ทั่วประเทศอย่างเป็นธรรม และด้วยความคิดที่ไม่หยุดพัฒนาและเรียนรู้ ในอนาคตผู้ใหญ่ใจมีเป้าหมายในการพัฒนาวิธีการเพาะปลูกโดยปรับเปลี่ยนจากการเพาะในดินกลางแจ้ง ตอนนี้ได้เริ่มหันมาเพาะในโรงเรือนมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ เพื่อให้ได้ผลิตผลที่ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกๆ ฝ่ายทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ผู้ใหญ่ใจกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเลือกเจียไต๋ เพราะมั่นใจในคุณภาพโดยเฉพาะการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประทับใจการดูแลเอาใจใส่ที่มีให้ผมและพี่น้องเกษตรกรด้วยดีมาตลอด” สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง Facebook CHIA TAI SEED เมล็ดพันธุ์เจียไต๋: https://bit.ly/CabbageSeedFB หรือรับชมคลิปสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ใจทาง YouTube Channel Chia Tai Group Official: https://bit.ly/CabbageCTYouTube เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเจียไต๋??? บริษัท เจียไต๋ จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2464 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรกรรมชั้นนำของเอเชีย ธุรกิจของเจียไต๋ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปสู่ปลายน้ำ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการที่เริ่มต้นตั้งแต่เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ปุ๋ย ผลิตภัณท์อารักขาพืช? เทคโนโลยีเพื่อการเพาะปลูก ไปจนถึงการส่งมอบผลิตผลที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เจียไต๋เป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกๆ ของไทยที่คิดค้นวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไฮบริด? และยังมีศักยภาพในการค้นคว้าวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร และมอบความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยมีสถานีวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชทั้งในและต่างประเทศกว่า?10?แห่ง?และบริษัทสาขาอีก?7?แห่ง กระจายอยูทั่วภูมิภาคเอเชียและอเมริกา โดยมีพนักงานกว่า 1,300 คน ที่เจียไต๋ เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรม? มีความเป็นมืออาชีพและมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีก ว่าอย่างยั่งยืนของคนทั่วทั้งภูมิภาค

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ