มาแล้วความหวังชาวประมง !!! ค.ร.ม. ไฟเขียวงบหมื่นกว่าล้าน หนุนโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมงพื้นบ้านและพาณิชย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 27, 2020 17:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กรมประมง ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบโครงการ สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง กรอบวงเงิน 10,300 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านและพาณิชย์ด้วยการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ให้ชาวประมงสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อีกครั้ง จากการปฏิรูปภาคการประมงไทยด้วยการประกาศใช้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และพระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ส่งผลให้ผู้ประกอบการประมงรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการปรับปรุงเรือ เครื่องมือ และอุปกรณ์ทำการประมง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการประมงประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพและบางราย อาจต้องใช้สินเชื่อนอกระบบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำการประมง ดังนั้น ในระยะเร่งด่วน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายให้กรมประมงหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์เพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพด้วยการจัดหาแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่ท่านอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย ผลักดันโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง สำหรับช่วยบรรเทาภาระของชาวประมงด้วยการสนับสนุนแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับใช้ในการปรับปรุงเรือประมง ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ทำการประมง ตลอดจนมีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งกรมประมงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง เพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมประมง ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 พบว่าประเทศไทยมีจำนวนเรือประมงไทย ที่มีทะเบียนเรือ รวม 61,601 ลำ ประกอบด้วย เรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 51,209 ลำ และ เรือประมงพาณิชย์ จำนวน 10,392 ลำ ซึ่งจากการสำรวจของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยในเบื้องต้นมีผู้ประกอบการประมงต้องการสินเชื่อเป็นจำนวนมาก ในด้านการจัดหาสินเชื่อเพื่อสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ภายใต้โครงการดังกล่าวจะสนับสนุนวงเงินสินเชื่อรวม 10,300 ล้านบาทโดยธนาคารของรัฐเข้าร่วมจำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ปล่อยสินเชื่อสนับสนุนเรือประมงขนาด ต่ำกว่า 60 ตันกรอส โดยสนับสนุนรายละไม่เกิน 5 ล้านบาทธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อสนับสนุนเรือประมงขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไปวงเงินสินเชื่อจำนวน 5,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 8 ปีนับจากวันที่ ครม.มีมติอนุมัติโครงการ โดยทั้งธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. จะปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน กู้เงินทุนในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี กล่าวคือ รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ต่อปีและ ผู้ประกอบการประมงจะต้องจ่ายสมทบอีกร้อยละ 4 ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปีนับตั้งแต่วันที่กู้ ทั้งนี้ในส่วนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเรือประมงนอกน่านน้ำไทย ธนาคารออมสินได้ดำเนินโครงการสินเชื่อส่งเสริมศักยภาพเรือประมง นอกน่านไทย โดยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกินลำละ 20 ล้านบาท สูงสุดไม่เกินรายละ 3 ลำ วงเงินโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า การปฏิรูปภาคการประมงไทยมีเป้าหมายหลักเพื่อการบริหารจัดการ ด้านการประมงและการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ปกป้องคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอาชีพ การประมงทุกภาคส่วนอย่างมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากร การใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ต้องขอบคุณรัฐบาลและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญในการสนับสนุนพี่น้องชาวประมงที่ต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพประมงได้อย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน อย่างสง่างามภายใต้การทำประมงอย่างรับผิดชอบ โครงการดังกล่าวนี้จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้ภาครัฐจะมีการออกมาตรการต่างๆ มาบังคับใช้ แต่ก็ได้ให้ความสำคัญกับการหาแนวทางการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับ พี่น้องชาวประมงควบคู่ไปด้วยเช่นกัน ต้องขอขอบคุณทุกความร่วมมือที่ร่วมจับมือกันก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยวิถีการทำประมงที่เกื้อกูลกันมากยิ่งขึ้นพร้อมส่งต่อทรัพยากรสัตว์น้ำของประเทศ ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราช่วยกันดูแลต่อไป สำหรับชาวประมงผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมประมง โทร.02-562-0600-15 หรือสำนักงานประมงจังหวัดใกล้บ้านท่าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ