กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับการที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งต้องระงับการดำเนินธุรกิจอันเนื่องมาจากบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ได้ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) กำหนด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการลงทุนของบริษัทที่ต้องคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องตามเกณฑ์ สำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่มีผลต่อสินทรัพย์ของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์นั้น
เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า ในการประกอบธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ทรัพย์สินของลูกค้ามีความปลอดภัยและสามารถระบุได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้ารายใด โดยให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีมาตรการ ระบบงาน รวมทั้งการกำกับดูแลเกี่ยวกับการดูแลทรัพย์สินของลูกค้า ซึ่งในที่นี้ประกอบไปด้วย เงินสด หลักทรัพย์ ทรัพย์สินอื่น หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากทรัพย์สิน เช่น สิทธิในเงินปันผลหรือดอกเบี้ย สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน เป็นต้น
โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องมีการจัดเก็บทรัพย์สินแยกออกจากทรัพย์สินของบริษัทหลักทรัพย์ จัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแต่ละรายแยกออกจากบัญชีทรัพย์สินของบริษัทหลักทรัพย์และเก็บรักษาบัญชีไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงมีการกำหนดห้ามนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้ และในกรณีที่ทรัพย์สินเป็นเงิน การที่บริษัทหลักทรัพย์นำไปแสวงหาผลประโยชน์อื่นใดจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ดังนั้นขอให้นักลงทุนมีความมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ มีความปลอดภัย ครบถ้วน และอยู่ในลักษณะที่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้ารายใด