![ฟอร์ติพร็อกซี Secure Web Gateway จากฟอร์ติเน็ตได้รับการรับรองให้อยู่ใน Approved Product List จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ]()
กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--คอมมิวนิเคชั่น อาร์ต
ฟอร์ติเน็ตผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ครบวงแบบอัตโนมัติและครบวงจรประกาศในวันนี้ว่า ฟอร์ติพร็อกซี (FortiProxy) โซลูชั่นด้านปลอดภัยสำหรับการใช้งานเว็บ (Secure Web Gateway) ได้รับการรับรองให้อยู่ใน Approved Product List (APL) ของหน่วยการสื่อสารของ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (Department of Defense Information Network: DoDIN)
ซึ่งการได้รับใบรับรองครั้งนี้เป็นการรับรองผลิตภัณฑ์ของ
ฟอร์ติเน็ตที่กำหนดไว้สำหรับการขายให้กับหน่วยงาน
กระทรวงกลาโหม โดยผ่านการทดสอบความปลอดภัยทางเทคนิค (Security Technical Implementation Guide: STIG) ที่เข้มงวด ซึ่งเป็นมาตรฐานในการติดตั้งและบำรุงรักษาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆของ
สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันการโจมตีทางด้านไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น องค์กรจึงจำเป็นต้องมีวิธีการด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่เข้ามาทาง เว็บทราฟฟิก, เว็บไซต์และไวรัส โซลูชันฟอร์ติพร็อกซีสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างเบ็ดเสร็จในผลิตภัณฑ์เดียว ซึ่ง ฟอร์ติพร็อกซีเป็นอุปกรณ์ด้านปลอดภัยสำหรับการใช้งานเว็บ (Secure Web Gateway) ที่มีคุณสมบัติด้านปลอดภัยที่ช่วยปกป้องพนักงานจากการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต โดยผสมผสานเทคนิคการตรวจจับที่ครบถ้วน อาทิ การกรองเว็บที่ไม่ปลอดภัย (Web filtering)การกรอง DNS ที่ไม่ปลอดภัย (DNS filtering) การป้องกันการสูญหายของข้อมูล (DLP) การป้องกันไวรัส (Antivirus) การป้องกันการบุกรุก (IPS) และการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง (APT) ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชันยังช่วยให้องค์กรสามารถบังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยได้ตามต้องการ โซลูชัน Secure Web Gateway นี้ยังช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์และยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บขององค์กรด้วยการใช้เทคนิค Caching
ทำให้การใช้งานข้อมูลคอนเท้นต์และวิดีโอมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ฟอร์ติพร็อกซียังมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งใช้งานโดยสามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ ได้แก่โหมด Explicit, Transparent และ Inline ที่เอื้อให้แต่ละองค์กรสามารถใช้งานได้เฉพาะตามสภาพแวดล้อมของเครือข่ายอีกด้วย
การที่อุปกรณ์ฟอร์ติพร็อกซีได้รับการรับรองให้อยู่ใน APL นั้น จึงหมายถึงการที่
กระทรวงกลาโหมสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตและความสามารถในการเก็บคอนเท้นต์ทางเว็บขั้นสูง (Advanced content caching)ได้ เมื่อหน่วยงานต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆที่ตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยไซเบอร์
โซลูชันด้านความปลอดภัยที่ผ่านการรับรองของ
ฟอร์ติเน็ตนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการปกป้องหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดหน่วยข่าวกรองและ
กระทรวงกลาโหมรวมถึงหน่วยงานพลเรือนทั้งหลาย ทั้งนี้ โครงข่ายด้านความปลอดภัย Security Fabric ของ
ฟอร์ติเน็ตมีศักยภาพในการปกป้องระบบต่างๆ ทั้งประเภทที่เป็นความลับและไม่เป็นความลับของรัฐบาลกลางซึ่งมีหน่วยงานของคณะรัฐมนตรีมากถึง 15 หน่วยงานทั้งหมดและหน่วยงานอิสระของผู้บริหารระดับสูงหลายแห่งเข้ามาใช้งาน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ของ
ฟอร์ติเน็ตที่พัฒนาเป็นพิเศษสำหรับตลาดหน่วยงานราชการและได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดต่างๆ ในการออกเอกสารการรับรองจากรัฐบาลกลาง รวมถึงการรับรองจากสถาบัน National Institute of Standards and Technology FIPS 140-2 และสถาบัน National Information Assurance Partnership Common Criteria certification และ Commercial Solutions for Classified certification อีกด้วย
ก่อนที่จะได้รับการรับรองให้อยู่ใน APL ของหน่วยการสื่อสารของ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (Department of Defense Information Network: DoDIN) นั้น FortiProxyได้ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยทางเทคนิค (Security Technical Implementation Guide: STIG) และแนวทางข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (Security Requirements Guides: SRG) ซึ่งประกอบด้วยการทดสอบอย่างละเอียดดังนี้: Application Layer Gateway (ALG) SRG v1r2, Network Device Management SRG v2r14ม Network Infrastructure Policy STIG v9r7 และ Web Server SRG v2r2
คุณบ็อบ ฟอร์ตน่า ประธานแห่ง
ฟอร์ติเน็ต เฟดเดอรัล อิงค์ กล่าวว่า “การที่ผลิตภัณฑ์ของ
ฟอร์ติเน็ต เช่น ฟอร์ติพร็อกซีอันเป็นโซลูชัน Secure Web Gateway ได้รับการรับรองให้อยู่ใน APL ของหน่วยการสื่อสารของ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติมจากอุปกรณ์อื่นของ
ฟอร์ติเน็ตที่ผ่านการรับรองไปก่อนหน้านี้แล้ว นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในความมุ่งมั่นของ
ฟอร์ติเน็ตในการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่มีวิวัฒนาการใหม่ๆ และปกป้องข้อมูลและเครือข่ายภายในรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ การทุ่มเทของ
ฟอร์ติเน็ตเพื่อให้ได้การรับรองเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่อย่างต่อเนื่องต่อภารกิจที่สำคัญและความต้องการเฉพาะของ
กระทรวงกลาโหม”