กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--ไอเวิร์คพีอาร์
สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดข้อกำหนดมาตรการการจัดระเบียบคลินิกความงามหลังการปลดล็อค เพื่อให้มีความปลอดภัยหรือ To Be Safety ทั้งกับคนไข้และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และลดความเสี่ยงของการทำหัตถการ และสร้างแผนปลดล็อคสถานประกอบการ 4 กลุ่มตามความเสี่ยง และกำหนด 4 มาตรการหลัก คือ 1.มาตรการด้านผู้ป่วย 2.มาตรการด้านเจ้าหน้าที่ 3.มาตรการด้านสถานที่ และ 4.มาตรการการทิ้งขยะ
“ที่ต้องมีการเขียนมาตรการสำหรับการจัดระเบียบคลินิกความงามขึ้น เนื่องจากหัตถการหลายอย่างที่ทำในคลินิกความงามนั้นมีความเสี่ยง มีข้อมูลรายงานว่า ในควันที่เกิดจากการทำเลเซอร์โดยเฉพาะเลเซอร์สิวตรวจพบเชื้อไวรัสหูด ถึงแม้จะยังไม่มีการรายงานว่าพบเชื้อ SARS-CoV-2ไวรัสของ COVID-19 เพราะปัจจุบันยังไม่มีการวิจัยถึงระดับนั้น แต่เราก็ต้องปลอดภัยเต็มที่ไว้ก่อน ซึ่งควันในการทำเลเซอร์อาจจะทำให้เชื้อฟุ้งกระจายได้ภายในคลินิก ถ้าไม่มีการดูดควันที่ดีพอและได้มาตรฐานเนื่องจาก เชื้อ SARS-CoV-2 สามารถอยู่ได้นาน 2 ชม.- 9 วัน ในอุณหภูมิห้อง ทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายได้ รวมไปถึงการทำหัตถการใด ๆ ที่ทำให้เลือดกระเด็นออกมาได้ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เพราะมีรายงานพบว่า สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสได้ในเลือดของผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการ”
ศ.นพ.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในการทำหัตถการด้านความงามเลเซอร์หรือหมอผิวหนังที่มีความเสี่ยง ได้แก่ 1. การปรึกษาที่ใช้เวลานาน ๆ กับคนไข้ 2. หัตถการที่เกิดควันรวมไปถึงการจี้ไฟฟ้าหรือการจี้ความเย็น และเลเซอร์ที่เกิดควัน เช่น คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ เลเซอร์ที่ทำและมีควันฟุ้งกระจาย Q -switched laser หรือ piocosecond laser หรือแม้แต่เลเซอร์ที่กำจัดขนที่ทำตามร่างกาย 3. หัตถการที่ใช้เวลานาน เช่น การฉีดฟิลเลอร์หลายตำแหน่ง การกดสิวหลายตำแหน่ง ดังนั้นจากที่ประชุมต้องใช้เวลาในการทำหัตถการไม่เกิน 60 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง และ 4.หัตถการในช่องปาก ซึ่งเป็นหัตถการที่มีความอันตรายมากที่สุด
ในที่ประชุมเมื่อต้นสัปดาห์เราได้คุยถึงมาตรการในการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของทั้งหมอ บุคลากรและคนไข้ที่เข้ามาในคลินิก อย่างที่แน่นอนไม่ได้เป็นการจัดมาตรการด้านเจ้าหน้าที่ สถานที่หรือเครื่องมืออย่างเดียวเราต้องมีมาตรการและมาตรฐานบริหารจัดการด้านคนไข้ด้วย ซึ่งแต่ละมาตรการมีดังต่อไปนี้แบ่งเป็น
มาตรการด้านผู้ป่วยมาตรการในการคัดกรองผู้ป่วย อาจจะต้องมีการคัดกรองทางโทรศัพท์ โทรไปถามถ้าคนไข้มีอาการคล้ายหวัด มีไข้ หรือแม้แต่ท่านที่มีประวัติที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด หรือเดินทางไปสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคอาจต้องขอให้ยกเลิกนัดไปก่อน ซึ่งเราต้องคัดกรองตั้งแต่ขั้นตอนคนไข้โทรมานัดเมื่อผู้ป่วยมาถึงหน้าคลินิกทางคลินิกต้องติดป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโควิด มีการวัดอุณหภูมิ ให้ผู้ป่วยทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือล้างด้วยสบู่และน้ำก่อนเข้าคลินิก ต้องมีการเปลี่ยนหรือคลุมรองเท้า ต้องจำกัดจำนวนของผู้มาคลินิกที่ไม่ใช่ผู้ป่วยไม่เกินจำนวน 1 ท่านเข้ามาที่คลินิก ต้องตรวจ rapid test หรือ swab ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนการทำหัตถการในรายที่ต้องทำหัตถการนานเกิน 60 นาทีภายในคลินิก ต้องมีฉากใสกั้นระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ณ จุดต้อนรับ มีการจัดเก็บชื่อนามสกุล ที่อยู่ เลขที่บัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อผู้ป่วยได้ ต้องจัดที่นั่งห่างกัน 1-2 เมตร ทำความสะอาดที่อาจปนเปื้อนเชื้อบ่อย ๆ เช่น หนังสืออ่านเล่น หรือของตกแต่งหลังผู้ป่วยกลับ ควรทำความสะอาดพวกเคาน์เตอร์ โต๊ะ เก้าอี้หรือเตียง แม้แต่ในคลินิกความงามที่มีกระจกส่องหน้าต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่สามารถฆ่าเชื้อได้มาตรการด้านเจ้าหน้าที่ห้ามเดินทางต่างประเทศ ถ้ามีความจำเป็นต้องเดินทางก่อนจะมาปฏิบัติหน้าที่ต้องกักตัว 14 วัน สำหรับคนที่ทำงานในคลินิกเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมง จะต้องวัดอุณหภูมิอย่างน้อยวันละ 2 รอบ ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์หรือสบู่และน้ำในห้องทำหัตถการ ต้องคลุมเครื่องมือและโต๊ะด้วยพลาสติกและเปลี่ยนทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต้องสวมชุดและเครื่องมือป้องกันที่เหมาะสม เช่น ถุงมือ ชุดคลุม หมวกคลุมหัว แว่นตา หน้ากาก และ Face Shield ใช้เครื่องดูดควันทุกครั้งเมื่อทำหัตถการที่เกิดควันและเน้นย้ำให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากในห้องเลเซอร์ทุกครั้งหลังเสร็จหัตถการ ถอดทิ้งชุดและเครื่องมือป้องกันทุกอย่างอย่างถูกต้องถูกวิธี และล้างมือทุกครั้งหลังถอดถุงมือมาตรการด้านสถานที่ต้องคลุมเครื่อง โต๊ะ เตียงด้วยผ้าหรือพลาสติกที่เปลี่ยนได้ ทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่ฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ เช่น ethanol 62-71% หรือ hydrogen peroxide 0.5% หรือ sodium hypochlorite 0.1%มาตรการเรื่องห้องน้ำ ต้องมอบหมายเจ้าหน้าที่ในการทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง ตั้งแต่ก๊อกน้ำ ชักโครก ฝารองนั่ง เมื่อมีการใช้งานต้องมีถังขยะเพื่อเก็บแยกขยะให้ดีและทำการทิ้งตามระเบียบของกรมอนามัยมาตรการการทิ้งขยะ ถอดทิ้งชุดและเครื่องมือป้องกันทุกอย่างอย่างถูกต้องและปลอดภัย คัดแยก ทิ้งอุปกรณ์และขยะทางชีวภาพตามข้อบังคับของกรมอนามัย
อย่างไรก็ตามมาตรการต่าง ๆ ที่ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยได้เสนอมานี้เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์และคนไข้ ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อช่วยให้ประเทศของเราสามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างปลอดภัยหลังการปลดล็อค