กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--พีอาร์ พีเดียร์
ท่วงหงษ์ แบรนด์เครื่องประดับเงินแท้สัญชาติไทยทะยานเหนือวิกฤตโควิด-19 ปั้นแบรนด์พร้อม ยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซ ส่งต่อผลงานระดับมาสเตอร์พีซสำหรับลูกค้าแบบเฉพาะคน
นายณัฏฐรัชพล ปุลินจิตรคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เอเชี่ยน จิวเวลรี่ จำกัด ผู้จัดหน่ายและทำการตลาดเครื่องประดับเงินแท้แบรนด์ TuangHong เปิดเผยว่า “ในช่วงที่ผ่านมา เครื่องประดับเงินแท้ 92.5% หรือที่เรียกว่า สเตอร์ลิง ซิลเวอร์ (Sterling Silver) ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก มีแบรนด์เกิดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งสิ้น เมื่อเทียบกับเครื่องประดับโลหะประเภทอื่นๆ ถึงแม้ว่าขณะนี้ การส่งออกสินค้าเครื่องประดับเงินของประเทศไทยจะมีการปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาด โควิด-19 แต่บางตลาดในเอเชียเช่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ได้ผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งน่า จะส่งผลให้การส่งออกกลับมาดีขึ้นในครึ่งหลังของปี ส่วนในประเทศ ยังคงมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการล็อคดาวน์ทำให้ผู้ซื้อหันมาช้อปปิ้งผ่านอีคอมเมิร์ซ ทำให้ตลาดเครื่องประดับเงินแท้ในประเทศยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ และคาดว่าการผ่อนปรนในระยะต่อๆ ไปในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ก็จะทำให้ตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น”
“บริษัทฯ ได้เปิดตัวสินค้าแบรนด์แรกในชื่อ TuangHong (ท่วงหงษ์) อย่างเป็นทางการเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่ทำจากเงินแท้ฝังแร่มาร์คาไซท์ มีไลน์สินค้าหลากหลายตั้งแต่แหวน ต่างหู กำไล สร้อยข้อมือ นาฬิกา จี้ สร้อยคอ เข็มกลัด ไปจนถึงชุดเซ็ตเครื่องประดับเงินแท้ บริษัทฯ ต้องการสร้างแบรนด์ TuangHong ให้เป็นเหมือนของขวัญชิ้นพิเศษ ที่ลูกค้าสามารถใส่ความเป็นตัวเองได้ตามความต้องการ เป็นตัวแทนของการส่งต่อความรัก มิตรภาพ ความผูกพัน ความห่วงใย ถึงคนพิเศษ เป็นเครื่องประดับที่มีคุณค่าทางจิตใจ สามารถส่งต่อจากครอบครัวสู่ครอบครัวและจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยคุณค่างานหัตถศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความหมายและเรื่องราวของแต่ละบุคคล”
“บริษัทฯ ได้เลือกทำการตลาดและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 100% ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากโควิด-19 ได้มาก สำหรับราคาสินค้า TuangHong จะอยู่ในระดับที่ทุกคนจับต้องได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นหญิงสาวตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยจนถึงวัยทำงาน มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย นิยมใช้โซเชียลมีเดีย รักความประณีตและชื่นชอบเครื่องประดับเงินแท้ 92.5% ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องการแสดงออกถึงรสนิยมผ่านเครื่องประดับที่เลือกสวมใส่ในทุกวัน” นายณัฏฐรัชพล กล่าว
แบรนด์ TuangHong มีเอกลักษณ์ที่ดีไซน์ ที่เน้นความสง่างามและละเอียดอ่อน เช่นเดียวกับท่วงท่าของหงส์ อีกทั้งอักษรย่อ TH ของแบรนด์ยังคล้องกับอักษรย่อของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางเครื่องประดับเงินและอัญมณีอันดับต้นๆ ของโลก บอกที่มาของแบรนด์ว่าเป็นเครื่องประดับเงินอัญมณีแท้คุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับระดับสากล จากคุณภาพงานฝีมือที่ทรงคุณค่า ตามสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า “Every Piece Your Masterpiece เอกลักษณ์ในแบบคุณ” สินค้าทุกชิ้นจึงจะเป็นงานสั่งทำพิเศษ (Tailor Made) เปรียบเสมือนงานสั่งตัด ที่เน้นความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยช่างฝีมือคนไทยที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ตั้งแต่ดีไซน์ อัญมณี และขนาดของตัวเรือนถูกทำขึ้นอย่างเฉพาะ เจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละคน เพื่อสร้างเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เสมือนผลงานชิ้นเอกสะท้อนคุณค่าอันเป็นตัวของตัวเอง เปล่งประกายเสน่ห์และความสง่างาม พร้อมสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ที่ได้ครอบครองสิน ค้าของท่วงหงษ์ตลอดอายุการใช้งาน
“สำหรับยอดขายหลังเปิดตัว ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ มียอดลูกค้าสั่งซื้อครั้งแรกแล้วกลับมาซื้อซ้ำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกือบ 60% เป็นลูกค้าในกรุงเทพ ฟีดแบ็คส่วนใหญ่จะชื่นชอบที่ดีไซน์ คุณภาพ และความคุ้มค่า อีกทั้งประเภทสินค้าที่หลากหลายยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินกับการเลือกชิ้นงานที่ถูกใจได้ไม่เบื่อ ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดจะเป็นแหวนและต่างหู ในช่วงแรกนี้ แบรนด์ TuangHong ยังโฟกัสที่ตลาดในประเทศอย่างเดียว โดยจะใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเข้าถึงลูกค้าคนไทยทั่วประเทศก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดส่งออก ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดช่องทางจำหน่ายสินค้า ทั้งทางเว็บไซต์ www.tuanghong.com ทางเฟสบุ๊ค facebook.com/tuanghong ทางไลน์ @tuanghong และไอจี @tuanghongth โดยในไตรมาสที่สาม จะเริ่มขยายสู่แพลทฟอร์มอื่นเพิ่มเติม เช่น Lazada และ Shopee รวมถึงแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กำลังเป็นที่นิยม อย่าง Tiktok”
“เครื่องประดับเงินแท้ เป็นประเภทเครื่องประดับที่สามารถถ่ายทอดความหรูหรา เสน่ห์และรสนิยมเฉพาะตัว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคมีค่านิยมในการซื้อเครื่องประดับเฉพาะช่วงเวลาโอกาสพิเศษ เนื่องจากราคาที่เข้าถึงยาก ทางแบรนด์ท่วงหงษ์จึงมีสินค้าราคาที่ไม่สูงจับต้องได้ เพื่อให้เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทุกคน สามารถซื้อได้บ่อย เปลี่ยนดีไซน์ ได้บ่อยตามต้องการในแบบ “Daily use to wear” และด้วยงานประเภท Tailor Made ที่ออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับลูกค้าแต่ละรายจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มที่ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำง่ายขึ้น” นายณัฏฐรัชพล กล่าวทิ้งท้าย