กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 1 มิ.ย.63 ถึงปัจจุบัน (5 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 12 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว รวม 27 อำเภอ 50 ตำบล 107 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 497 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน (5 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 50 ตำบล 107 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 497 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป