กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขอบคุณพลังน้ำใจคนไทยที่ร่วมกันส่งหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศผ่านโครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” โดยได้เริ่มต้นโครงการตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งในระยะเวลากว่า 2 เดือน มีการส่งหน้ากากอนามัย ชุด PPE และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ไปถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศด้วยระบบงาน EMS ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรี รวมปริมาณการส่งกว่า 2 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยเผยปริมาณพัสดุเข้าสู่ระบบของไปรษณีย์ในช่วงประเทศล็อคดาวน์ เพิ่มขึ้นวันละกว่า 60% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของการซื้อขายออนไลน์ระหว่างที่คนไทยอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 พร้อมย้ำจุดยืนการเคียงคู่คนไทยในทุกสถานการณ์
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ใช้ศักยภาพการเป็นผู้นำด้านการสื่อสารและขนส่ง ดำเนินโครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” จัดส่งหน้ากากอนามัย หน้ากากอนามัยชนิด N95 ชุด PPE และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางแพทย์ จากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ เช่น สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิก้าวคนละก้าว กลุ่มบริษัท IKEA Group เป็นต้น
นายก่อกิจ กล่าวเพิ่มว่า ไปรษณีย์ไทยยังขานรับนโยบายรัฐบาลในการจัดส่งหน้ากากอนามัย ชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กองบัญชาการกองทัพไทย องค์การเภสัชกรรม สภากาชาดไทย เป็นต้น อีกทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ส่งคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออาหารให้ อสม. ทั่วประเทศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพจอีจัน และอีกหลายๆ หน่วยงาน ส่งความช่วยเหลือประเภทสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น นมผงสำหรับเด็ก ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง และประชาชนทั่วประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีปริมาณ ธารน้ำใจจากคนไทยร่วมกันส่งหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งตรงถึงทุกแห่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมกว่า 2 ล้านกิโลกรัม
ทั้งนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้มีมาตรการต่างๆ จากภาครัฐ โดยเฉพาะการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เว้นระยะห่างทางสังคม การปิดห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเป็นการชั่วคราว จึงส่งผลให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมาก ทำให้การส่งสิ่งของผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ มีการให้บริการรับฝากส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปริมาณงานปกติต่อวัน
ไปรษณีย์ไทยขอขอบคุณคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและเลือกใช้บริการไปรษณีย์ไทย โดยเราได้พัฒนาและยกระดับบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ ทั้งกลุ่มอีคอมเมิร์ซ หรือร้านค้าที่ได้รับผลกระทบและเปลี่ยนผ่านจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ และผู้ที่เปลี่ยนมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการให้บริการเพื่อสังคม เป็นบริการพื้นฐานเคียงคู่คนไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทย ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจหลังภาวะวิกฤติผ่านพ้นไป นายก่อกิจ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.thเฟซบุค : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดทวิตเตอร์ : @Thailand_Postไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post