บอร์ด MAX ย้ำชัด ลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการอย่างเหมาะสม เตรียมเคาะแผนพัฒนา-สร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 5, 2020 12:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--บางกอก ออทัม สืบเนื่องจากกรณีบริษัท หลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) (“ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ”) ของบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ได้แสดงความเห็นต่อการเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ เดอะ มาสเตอร์ เรียลเอสเตท และ อริยา เอสเตท นั้น ทางบริษัทมีความเห็นว่าการเข้าลงทุนดังกล่าวข้อพิจารณาอันสมเหตุสมผล อันเป็นการศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมอย่างถี่ถ้วนแล้ว และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2563 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการดังกล่าวได้และเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 นี้ โดยนาย กุศล สังขนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ตลอดปีที่ผ่านมา คณะกรรมการได้ศึกษาถึงประเภทการดำเนินธุรกิจที่จะสร้างผลกำไรให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง มีอัตราเสี่ยงต่อการขาดทุนต่ำ เห็นผลสำเร็จจากการลงทุนได้อย่างรวดเร็วแต่มีความยั่งยืน ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายประเภท ซึ่งการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริการเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความสนใจมาโดยตลอด เมื่อได้รับติดต่อจากทางกลุ่มผู้ขาย บริษัทจึงทำการศึกษาเกี่ยวกับกิจการอย่างถี่ถ้วน การเข้าลงทุนในเดอะ มาสเตอร์ เรียลเอสเตท มีข้อดีคือ 1.)เดอะมาสเตอร์ฯ ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเปล่าริมถนนสุขุมวิท ซึ่งมีศักยภาพ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง–พัทยา เป็นอย่างมาก เป็นทำเลที่เปรียบเสมือนจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมต่อของโครงการ EEC ทั้งหมด โดยจากโครงการต่าง ๆ นี้ จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมหลักในภาคตะวันออกมากขึ้น อีกทั้งจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีเพิ่มสูงขึ้น 1.5เท่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในปัจจุบัน จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งแก่การลงทุนและพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ 2.)ด้านแผนธุรกิจ ที่ดินดังกล่าวมีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็น Airport Hotel เนื่องจากมีที่ตั้งที่เหมาะสม ใกล้กับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของการถูกเวนคืนที่ดิน กรรมการมีความเชื่อมั่นถึงความเป็นไปได้ที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ จากการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะเกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น 3.)บริษัทจะมีโอกาสเหนือคู่แข่งหรือผู้ประกอบการรายอื่น จากข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ ด้วยที่ดินตั้งอยู่ในระยะ 5 กิโลเมตรจากพื้นที่โครงการ EEC ในขณะที่โรงแรมอื่นมีระยะทางห่างออกไปราว 10-15 กิโลเมตร ทั้งไม่ใช่ Chained-Brand Hotel หากบริษัทฯ พัฒนาพื้นที่เพื่อสร้าง Airport Hotel และวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการโรงแรมเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดผลรายได้และกำไรต่อบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ โดยมีแผนที่จะติดต่อหา Chained-Brand Hotel เข้ามาบริหาร Airport Hotel ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ด้านการลงทุนใน อริยา เอสเตท ซึ่งปัจจุบันประกอบกิจการโรงแรม Wisdom Hotel ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีข้อดีคือ 1.)เป็นการสร้างโอกาส และความสามารถในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ เนื่องจาก อริยาเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงแรมซึ่งสามารถสร้างรายและกระแสเงินสดให้กับบริษัทฯ ได้ทันทีที่เข้าลงทุน 2.)เป็นการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) จึงถือว่ามีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้สูง 3.)โครงการ Wisdom Hotel นั้น เป็นการได้มาในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพอยู่ในทำเลที่ดี และอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อเข้าสู่ระดับมาตรฐานสากลตามที่กล่าวข้างต้น ที่จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสสามารถให้บริการและรับรู้รายได้ทันที เมื่อพิจารณาจากโอกาสที่จะเกิดขึ้นและรายได้ที่บริษัทจะรับรู้ได้ทันทีเมื่อเข้าลงทุน ถือว่าราคาการลงทุนในธุรกิจทั้งสองมีความเหมาะสมแล้ว โดยการเข้าดำเนินธุรกิจนี้จะเป็นการกระจายความเสี่ยงในเรื่องของรายได้ในการประกอบธุรกิจเดิมของกลุ่มบริษัทฯคือ ธุรกิจน้ำมันปาล์มและธุรกิจบริหารจัดการสนามกอล์ฟของบริษัทย่อยของบริษัทฯ และบริษัทฯ จะได้ประโยชน์จากการลดความเสี่ยงด้านโครงสร้างทางการเงินและลดผลกระทบด้านสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ