กิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์” เด็กเมืองปัตตานี อยู่บ้านเรียนรู้ “ปลูกผักสวนครัว” สู้ภัย “โควิด-19”

ข่าวทั่วไป Friday June 5, 2020 14:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--ไอแอมพีอาร์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ยังคงเป็นมาตรการและแนวทางหนึ่งที่สำคัญของภาครัฐ ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ส่งผลมาถึงกิจกรรมดีๆ ในช่วงปิดเทอมของเด็กๆ ที่ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าต้องหยุดชะงัก เพราะความไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย เช่นเดียวกับ “โครงการกิจกรรมสร้างสรรค์เสริมสร้างสุขภาวะของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี” ที่วางแผนไว้ว่าจะให้เด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีได้เรียนรู้หลักสูตร “ว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด” เพราะมีอัตราการจมน้ำสูงอันดับต้นๆ ของประเทศ ก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับมาตรการของภาครัฐและระยะเวลาการปิดเทอมอยู่บ้านที่ยาวนานขึ้น “ปิดเทอมสร้างสรรค์ปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ช่วงภัยโควิด19” จึงเป็นกิจกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนโครงการจาก สำนักสร้างสรรค์โอกาส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน ได้ทำกิจกรรมยามว่าง และยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อครอบครัวในการปลูกผักเพื่อการบริโภคช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือน น.ส.นัสรินทร์ แซสะ หัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนการทำงานใหม่ โดยมองหากิจกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเด็กๆ และสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ได้ในสถานการณ์แบบนี้ ประกอบกับการปิดเทอมคราวนี้มีระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดทำกิจกรรมปลูกผักสวนครัวฯ ขึ้น “การปลูกผักนอกจากสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ แล้ว ผลผลิตที่ได้ก็สามารถนำไปใช้ในครัวเรือน ใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในบ้านได้ เพราะหลายครอบครัวก็เดือดร้อนจากการขาดรายได้จากสถานการณ์ช่วงนี้ เพราะพ่อแม่ไม่ได้ออกไปทำงาน แม้จะมีหน่วยงานต่างๆ คอยช่วยเหลือด้วยการมอบถุงยังชีพให้อยู่แล้ว เราก็เลยทำกิจกรรมปลูกผักเพราะผักต่างๆ เป็นของสดเด็กๆ ก็จะได้รับคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์จากผักที่พวกเขาปลูกด้วย” หัวหน้าโครงการฯ ระบุ โดยกิจกรรม “ปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ช่วงภัยโควิด19” ได้เริ่มต้นดำเนินงานเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเปิดรับสมัครครอบครัวที่สนใจเข้าร่วมโครงการผ่านทาง เพจ facebook : โครงการกิจกรรมสร้างสรรค์เสริมสร้างสุขภาวะของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี รวมไปถึงแชร์ข้อมูลข่าวสารกิจกรรมนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของเครือข่ายเด็กและเยาวชนพื้นที่ที่ทำโครงการร่วมกันกว่า 21 พื้นที่ โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ก็ได้รับผู้สมัครครบทั้ง 500 ครอบครัว สำหรับในชุดปลูกผักที่มอบให้กับแต่ละครอบครัว จะประกอบไปด้วยเมล็ดพันธ์ผักต่างๆ จำนวน 5 ชนิดคละกันไปอาทิ ผักบุ้ง, พริก, ผักกาด, ผักกวางตุ้ง, กระเพรา, มะเขือ, ถั่วฟักยาว ซึ่งผักเหล่านี้จะมีอายุการปลูกและเก็บเกี่ยวประมาณ 40-50 วันซึ่งสอดคล้องกับช่วงระยะเวลาการปิดเทอมที่นานขึ้น ภายในชุดยังมีอุปกรณ์และวัสดุเพาะปลูกประกอบไปด้วยปุ๋ยขี้ไก่และดินอย่างละ 5 กิโลกรัม มีกระถางและกระบะยาวอย่าละ 1 อัน พร้อมแผ่นพับคูมือแนะนำวิธีการปลูก ที่ให้ความรู้และคุณประโยชน์ต่างๆ ของการรับประทานผักแนบให้ไปด้วย ซึ่งการที่กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจำนวนมากจากผู้ปกครองส่วนหนึ่งมาจาก การหยุดอยู่บ้านเฉยๆ ในช่วงนี้นั้น เด็กๆ จะไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย ส่วนใหญ่ก็จะเล่นแต่โทรศัพท์มือถือ ประกอบกับหลายครอบครัวก็อยากจะหากิจกรรมที่เอื้อต่อการอยู่บ้านและสามารถที่จะทำร่วมกับลูกหลานได้ กิจกรรมปลูกผักสวนครัวฯ จึงตรงความต้องการของพ่อแม่และผู้ปกครองในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี “กิจกรรมนี้ตอบโจทย์ข้อแรกคือบริบทของพื้นที่ๆ ทำการเกษตร สองช่วยเรื่องแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่ทั้งนี้เด็กจะได้เรียนรู้กระบวนการต่างๆ ในการปลูกผัก ซึ่งการที่ผักจะงอกหรือออกผลหรือไม่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญเด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่าผักที่พวกเขากินนั้นมาจากไหน หลายคนได้รู้จักหน้าตาของเมล็ดพันธุ์ผักที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ได้รู้ว่ากว่าจะได้ผักที่กินในแต่ละวันมานั้นมีขั้นตอนอย่างไร ทั้งการปลูก ใส่ปุ๋ย รดน้ำ เป็นทักษะที่จะได้กระบวนเรียนรู้ในระหว่างที่ยังไม่เปิดเทอม และยังได้ทำกิจกรรมการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตในช่วงปิดเทอมไปพร้อมๆ กับสมาชิกในครอบครัวได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ทางโครงการฯ ก็จะมีกระบวนการติดตามผลการดำเนินงานอย่างของกิจกรรมปลูกผักในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง” น.ส.นัสรินทร์ แซสะ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวสรุป การหยุดอยู่บ้าน ช่วยชาติ ด้วยการ “ปลูกผัก” กับสมาชิกในครอบครัวของเด็กปัตตานี จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่นอกจากจะสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ให้เกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยสานสัมพันธ์ภายในครอบครัว ควบคู่ไปกับการลดรายจ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ