กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ลงนามเอ็มโอยู ร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาส่งเสริมเกษตรกรตามนโยบาย “ตลาดนำการเกษตร” ประเดิมรับซื้อเผือกหอม สระบุรี 5,000 กก. กู้วิกฤตโควิด-19 กระทบชาวไร่ พร้อมวางแผนร่วมกันระยะยาวพัฒนาสินค้าเกษตรคุณภาพ ตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับภาคการเกษตรอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเกษตรกรที่มีความเปราะบางในด้านการระบายผลผลิต ที่กว่าครึ่ง กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว มีผลผลิตพร้อมขาย แต่ด้วยระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ชะงักงันในช่วงภาวะโควิด-19 ผลผลิตระบายไม่ทัน แม็คโคร จึงร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการใช้กลยุทธ์ ตลาดนำการเกษตร สนับสนุนการกระจายสินค้าผ่านสาขาของแม็คโคร สู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร พร้อมยกระดับคุณภาพให้ผลผลิตมีความสม่ำเสมอและขายได้ราคา”
“สิ่งที่แม็คโครสามารถช่วยได้มากคือ การเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งมีการซื้ออย่างสม่ำเสมอในปริมาณมาเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ สร้างโอกาสในการขายผลผลิตให้เกษตรกรได้มากกว่า โดยเผือกหอมจากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ตำบลหรเทพ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เป็นสินค้าจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มแรกที่แม็คโครรับซื้อผ่านความร่วมมือดังกล่าว (ล็อตแรกจำนวน 5,000 กิโลกรัม) สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที”
แม็คโคร และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้วางกรอบความร่วมมือในระยะยาว ให้เกิดความต่อเนื่อง ในการพัฒนาและส่งเสริมการตลาดอย่างยั่งยืนให้กับสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย ในลำดับต่อไป ซึ่งในแต่ละปีแม็คโครรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ มีการรับซื้อในปี 2562 เป็นปริมาณมากกว่า 170,000 ตัน คาดว่าในปี 2563 จะรับซื้อผักผลไม้ได้ในปริมาณมากกว่า 200,000 ตัน จำนวนนี้รับซื้อจากเกษตรกรรายย่อย กลุ่มสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน จำนวน 16 กลุ่มทั่วประเทศ และมีสมาชิกเกษตรกรมากกว่า 7,700 ครัวเรือน
ด้าน นางสุวิมล สุภธรรม อายุ 49 ปี เจ้าของไร่เผือกหอม หนึ่งในสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่เผือก ตำบลหรเทพ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า “เผือกหอมที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ ผลผลิตของเราส่งออกไปขายหลายแห่ง ทั้งในโรงงานผลิตขนมรายใหญ่ และส่งออกไปขายยังตลาดจีน แต่ในช่วงโควิด-19 เราได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องหาตลาดเพื่อระบาย พอได้แม็คโครเข้ามา ก็ทำให้มีความหวัง แถมยังได้เรียนรู้การทำตลาด การพัฒนามาตรฐานต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินงานในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จำนวน 407,493 ครัวเรือน พื้นที่ 6,585,336 ไร่ จำนวนแปลงใหญ่ 6,877 แปลง สินค้าเกษตรประมาณ 90 รายการ
“หน้าที่ของแม็คโครคือการสรรหาวัตถุดิบคุณภาพมาตรฐานปลอดภัยเพื่อส่งต่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเมื่อเกิดการเชื่อมโยงในครั้งนี้ ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะในช่วงภาวะที่เกษตรกรประสบความยากลำบาก เราสามารถดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที และยังพัฒนาต่อยอดได้อีกในระยะยาว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงในชีวิตและรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน”นางศิริพร กล่าวทิ้งท้าย