กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 1 มิ.ย.63 ถึงปัจจุบัน (7 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 13 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว รวม 29 อำเภอ 52 ตำบล 112 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 518 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน (7 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 จังหวัด รวม 29 อำเภอ 52 ตำบล 112 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 518 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น
ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์
ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว
ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป