กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--เอสซีจี
เอสซีจี พร้อมด้วย โปรโม-โมรียา & โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล เริ่มภารกิจในฐานะ “ทูตผู้พิทักษ์ทะเล (The Sea Saver)” ของเอสซีจี ส่งมอบ “นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ” เนื่องในวันทะเลโลก โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับมอบ ณ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้พัฒนานวัตกรรมดังกล่าว ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เพื่อนำไปติดตั้งในแม่น้ำลำคลองสาขาต่าง ๆ ช่วยให้การจัดเก็บขยะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเชิญชวนแฟนกอล์ฟและคนไทยให้ช่วยกันลดขยะ และคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ป้องกันขยะไหลลงสู่ท้องทะเล และลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการจัดการที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน (Climate Emergency)
นายเจริญชัย ประเทืองสุขศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด (REPCO) ในธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า “ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่งระบุว่าประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ของโลกที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเล โดยขยะทะเลมีแหล่งกำเนิดจากกิจกรรมบนบกร้อยละ 80 และไหลลงสู่ทะเลผ่านทางแม่น้ำลำคลอง เอสซีจี ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรทะเลชายฝั่งผ่านโครงการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีด้านวัสดุพลาสติก สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยปกป้องและฟื้นฟูท้องทะเล โดยตั้งแต่ปี 2562 ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พัฒนา “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ” และนำไปติดตั้งบริเวณปากแม่น้ำและลำคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับทะเลแล้วกว่า 24 ชุด ในพี้นที่ 13 จังหวัด เพื่อป้องกันขยะรั่วไหลจากแม่น้ำสู่ทะเล และสามารถกักขยะได้กว่า 40 ตัน กระทั่งถึงวันทะเลโลกปี 2563 นี้ เอสซีจีจึงพัฒนาวัสดุลอยน้ำ “HDPE-Bone” จากเม็ดพลาสติกพอลิเอทิลีนที่มีสารกันรังสียูวี ทำให้ “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ จาก HDPE-Bone” หรือ SCG-DMCR Litter Trap Generation 2 มีความแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานกว่า 25 ปี รวมทั้งง่ายต่อการประกอบและติดตั้งยิ่งขึ้น และได้นำมามอบให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้การจัดเก็บขยะในแม่น้ำลำคลองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีโปรเม - เอรียา และ โปรโม - โมรียา จุฑานุกาล สองโปรกอล์ฟหญิงระดับโลก ในฐานะ “ทูตพิทักษ์ทะเล” ของโครงการ “The Sea Saver” มาร่วมชวนคนไทยให้เป็นผู้พิทักษ์ทะเล ตามแนวทาง SCG Circular way ในงานวันนี้ด้วย”
ด้าน เอรียา จุฑานุกาล หรือ โปรเม กล่าวว่า “ในระหว่างที่ต้องหยุดเชื้อเพื่อชาติอยู่ที่บ้าน แม้จะด้วยความจำเป็นแต่ก็ทำให้เห็นว่าในแต่ละวันเราผลิตขยะจำนวนมาก ทั้งเศษอาหาร และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เมในฐานะ “ทูตผู้พิทักษ์ทะเล - The Sea Saver” ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่รักทะเลเช่นกัน จึงได้ใช้โอกาสนี้ ลองนำแนวคิด “ใช้ให้คุ้ม แยกให้เป็น ทิ้งให้ถูก” ตามแนวทาง SCG Circular way ของเอสซีจี มาปฏิบัติร่วมกับครอบครัว โดยเริ่มด้วยการกินอาหารให้หมด ไม่เหลือเป็นเศษอาหาร จากนั้นก็คัดแยกขยะ เพื่อให้สามารถนำไปเข้าสู่ระบบการจัดการได้อย่างเหมาะสม เพราะเมเชื่อว่าการจัดการขยะอย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยป้องกันขยะไหลลงสู่ท้องทะเล ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงวิถีชีวิตของชุมชนริมชายฝั่ง และไม่น่าเชื่อว่า ขยะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เพราะเกือบทุกขั้นตอนของการจัดการขยะที่ไม่ถูกต้องมีส่วนสร้างก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่การขนย้าย การเผา ทำลาย การฝังกลบ และการเทกองรวมกันที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทน ดังนั้น การจัดการขยะที่ดี จึงช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย เมจึงอยากชวนทุกคนมาเป็น ผู้พิทักษ์ทะเล - The Sea Saver ด้วยกัน เพื่อช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะให้ได้รับการฟื้นฟูดูแลอย่างจริงจัง”
ขณะที่ โมรียา จุฑานุกาล หรือ โปรโม กล่าวเสริมว่า “ที่ผ่านมาในช่วงที่ทุกคนไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือท่องเที่ยว เราจะเห็นว่าธรรมชาติต่าง ๆ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดภายในระยะเวลาไม่นานนัก จึงทำให้โมกลับมาฉุกคิดได้ว่า กิจกรรมทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราแต่กลับส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณขยะจากการบริโภคของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะด้วยความจำเป็น แต่เราในฐานะผู้บริโภคจะสามารถทำอะไรเพื่อช่วยลดขยะได้บ้าง โมในฐานะ “ทูตผู้พิทักษ์ทะเล - The Sea Saver” จึงได้ปรับการใช้ชีวิตประจำวันให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง และเน้นเรื่องการใช้ซ้ำให้คุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยและแฟนกอล์ฟทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะ และการขาดการฟื้นฟูดูแลอย่างจริงจัง โมเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนร่วมกันทำ ก็จะสามารถช่วยทำให้ท้องทะเลไทยกลับมาสวยงามและอุดมสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งขันหลายรายการต้องระงับชั่วคราว จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้ง 2 พี่น้อง “โปรโม-โมรียา & โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ทูตผู้พิทักษ์ทะเล (The Sea Saver)” ได้กลับมาฝึกซ้อม และทบทวนผลงานที่ผ่านมา หากสถานการณ์คลี่คลายและสามารถกลับไปแข่งขันได้ ก็มีความพร้อมเต็มที่สำหรับรายการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน