กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--กรมวิชาการเกษตร
19 ผู้ส่งออกมะม่วงสดมีลุ้น ญี่ปุ่นแฮ็ปปี้ระบบควบคุมความปลอดภัยของไทย กรมวิชาการเกษตรเร่งเสนอรายละเอียดหลักเกณฑ์ให้พิจารณาอย่างเป็นทางการ พร้อมดัน “มะม่วงมหาชนก” เปิดตลาดญี่ปุ่นเพิ่มอีก
นายประเสริฐ อนุพันธ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังประเทศญี่ปุ่นกำหนดมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยในมะม่วงสดก่อนนำเข้าจากไทยอย่างเข้มงวด 100 % กรมวิชาการเกษตรได้เร่งส่งทีมไปเจรจา พร้อมกับเชิญเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เข้ามาตรวจสอบระบบการจัดการแปลง GAP มะม่วง ระบบตรวจรับรองสวนมะม่วง โรงอบไอน้ำ โรงคัดบรรจุของผู้ส่งออก รวมทั้งตรวจสอบห้องปฏิบัติการวิเคราะห์สารพิษตกค้างของกรมวิชาการเกษตรด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นมีความพึงพอใจมากในระบบควบคุมความปลอดภัยของไทย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นได้ระบุว่า ต้องการให้ผู้ส่งออกซื้อมะม่วงสดจากสวนเกษตรกรในเครือข่ายที่ได้รับการรับรองแปลง GAP ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 1,090 ราย รวมพื้นที่ปลูกกว่า 10,730 ไร่ และมะม่วงสดก่อนส่งออกต้องผ่านการอบไอน้ำจากโรงอบไอน้ำที่ขึ้นทะเบียนโดยกรมวิชาการเกษตรซึ่งปัจจุบันมี 7 โรง และผู้ส่งออกจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมวิชาการเกษตรด้วย นอกจากนั้น มะม่วงสดส่งออกต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้าง โดยผลวิเคราะห์ต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่ญี่ปุ่นกำหนด โดยเฉพาะสารคลอไพริฟอส(Chlorpyrifos) อนุญาตให้ตกค้างได้ไม่เกิน 0.05 ppm
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ผู้ส่งออกมะม่วงสดของไทย 19 ราย ยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งกรมวิชาการเกษตรกำลังเร่งจัดทำเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบควบคุมความปลอดภัยในมะม่วงสดก่อนส่งออก เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นพิจารณาอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2548 คาดว่า น่าจะได้คำตอบทันฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตมะม่วงที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนนี้
นอกจากนั้น กรมวิชาการเกษตรยังเตรียมแผนที่จะเสนอให้ญี่ปุ่นอนุญาตนำเข้า “มะม่วงมหาชนก”ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย โดยจะเร่งเสนอข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่พันธุ์ ประวัติพันธุ์ ขั้นตอนการปรับปรุงและการพิสูจน์พันธุ์ รวมทั้งข้อมูลโรคและแมลงศัตรูพืชของมะม่วงพันธุ์ดังกล่าวให้ประเทศญี่ปุ่นพิจารณาอย่างเป็นทางการ ถ้าตลาดญี่ปุ่นรองรับคาดว่าน่าจะไปได้ค่อนข้างดี และจะเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกมะม่วงได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากพันธุ์น้ำดอกไม้ หนังกลางวัน เขียวเสวย และมะม่วงพิมเสน
“ชาวญี่ป่นส่วนใหญ่จะชื่นชอบมะม่วงมหาชนก เพราะมีจุดเด่นที่ผิวมีสีเหลืองอมแดงปนชมพู ช่วยดึงดูดใจได้ ทั้งยังมีกลิ่นหอมหวานกว่ามะม่วงพันธุ์อื่น และมีเปลือกค่อนข้างแข็งสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าไทยมีความพร้อมที่จะขยายฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดได้เพียงพอตามต้องการ” รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว--จบ--