กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์
ASIMAR ลงนามสัญญาจ้างต่อเรือเก็บขยะ กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มูลค่างานกว่า 42 ลบ. จำนวน 2 ลำ หนุนรายได้โตแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ยืนยันมาตรฐานสุขอนามัย ไร้กังวลโควิด-19
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาจ้างกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ดำเนินการต่อเรือเก็บขยะ จำนวน 2 ลำ มูลค่างานกว่า 42 ล้านบาท เรือชุดนี้มีความยาวตลอดลำ 15.30 เมตร ความกว้าง 4 เมตร ทำความเร็วได้ถึง 12 น๊อต รูปแบบของเรือลำนี้ออกแบบสำหรับการเก็บขยะและขจัดคราบน้ำมันในทะเล สามารถทำการจัดเก็บและบรรทุกขยะได้ถึง 2.5 ตัน ได้อย่างปลอดภัย พร้อมระบบเก็บและกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในแม่น้ำหรือทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯมีความภาคภูมิใจ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำ
โดยก่อนหน้านี้ ASIMAR ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ไมน์โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ให้ดำเนินการต่อเรือโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า แบบ Catamaran จำนวน 12 ลำ ดังกล่าว มีความยาว 23.97 เมตร กว้าง 7 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 2 เครื่อง รองรับผู้โดยสารได้ถึงลำละ 200 คน เป็นแบบเรือที่ใช้วัสดุจากอลูมิเนียมที่ให้น้ำหนักเบา ช่วยให้ประหยัดพลังงาน มีความสามารถในการทรงตัวดี ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านี้ นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีระดับเสียงในห้องโดยสารที่เงียบมาก ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสะดวกสบายในการเดินทางยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ASIMAR ได้ดำเนินการต่อเรือโดยสารอลูมิเนียมปรับอากาศชั้นครึ่ง (Riva Express) จำนวน 4 ลำ ให้กับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และส่งมอบงานเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเริ่มให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
“แผนธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 30% ยังคงเป็นไปตามแผน ปัจจุบันบริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 125 ล้านบาท ได้แก่ งานต่อเรือเก็บขยะ งานต่อเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชของกรมโยธาธิการและผังเมือง เรือโดยสารอลูมิเนียมพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการต่อเรือของภาครัฐอีกหลายโครงการเพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/2563 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ มุ่งเน้นความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ โดยกำหนดมาตรการในการป้องกันและดูแล ทั้งในส่วนพนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขอนามัยของพนักงานเองและเพื่อสังคมส่วนรวม” นายสุรเดช กล่าว