กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สทนช.
“บิ๊กป้อม" นำทีมลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และการดำเนินโครงการเร่งด่วนเพื่อเก็บกักน้ำในฤดูฝน ในพื้นที่จังหวัดเลย เปิดโครงการบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พร้อมเดินหน้าโครงการแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน ส่วนภัยแล้งยังน่าห่วงแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ ณ บ้านสะอาด หมู่ที่ 6 ตำบลน้ำสวย อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายชัยยุทธ พิศถาน นายกเทศมนตรีตำบลนาโป่ง ให้การต้อนรับ
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการร่วมลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้ทำการส่งมอบบ่อน้ำบาดาล พร้อมระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ และคู่มือบริหารจัดการน้ำบาดาลให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/63 ของจังหวัดเลย ที่ได้รับอนุมัติงบกลางวงเงิน 95.06 ล้านบาท ในการดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าวจำนวน 16 แห่ง ได้ปริมาณน้ำ 4.977 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มีหน่วยงานดำเนินการ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การประปาส่วนภูมิภาค และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยดำเนินการใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเชียงคาน 3 แห่ง อำเภอเมืองเลย 5 แห่ง และอำเภอภูเรือ 8 แห่ง ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรม คือ ขุดเจาะบ่อบาดาล 10 แห่ง ขณะนี้แล้วเสร็จ 2 แห่ง สถานีสูบน้ำ 1 แห่ง เสร็จเรียบร้อยแล้ว และซ่อมแซมระบบประปา 5 แห่ง
นอกจากนี้จังหวัดเลยยังได้รับอนุมัติงบกลางดำเนินโครงการเร่งด่วนเพื่อเก็บกักน้ำในฤดูฝน ปี 2563 และโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/2563 (เพิ่มเติม) อีกจำนวน วงเงิน 229.36 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าว 553 แห่ง มีหน่วยงานดำเนินการ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยดำเนินการใน 14 อำเภอ คือ อำเภอเชียงคาน อำเภอเมืองเลย อำเภอเอราวัณ อำเภอด่านซ้าย อำเภอท่าลี่ อำเภอนาแห้ว อำเภอนาด้วง อำเภอปากชม อำเภอผาขาว อำเภอภูกระดึง อำเภอภูหลวง อำเภอวังสะพุง อำเภอหนองหิน และอำเภอภูเรือ ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ ฟื้นฟูแหล่งน้ำเดิม 517 แห่ง และพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ 36 แห่ง
เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ในพื้นที่จังหวัดเลยมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2558-2562 ได้ดำเนินโครงการต่างๆ รวม 692 โครงการ จาก 13 หน่วยงาน งบประมาณรวม 3,719.32 ล้านบาท มีพื้นที่รับประโยชน์ 125,537 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 46,569 ครัวเรือน และเพิ่มความจุเก็บกักน้ำรวม 59.45 ล้าน ลบ.ม. โดยมีโครงการสำคัญ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยศอก ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย พื้นที่รับประโยชน์ 4,950 ไร่ ปริมาณเก็บกักน้ำ 9.98 ล้าน ลบ.ม. การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง พื้นที่รับประโยชน์ 3,110 ไร่ ปริมาณน้ำ 2.19 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนรับประโยชน์ 158 ครัวเรือน การวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ เทศบาลตำบลปากปวน ตำบลปากปวน อำเภอวังสะพุง ครัวเรือนเข้าถึงน้ำประปา 650 ครัวเรือน การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยขี้นาก พร้อมระบบกระจายน้ำ สนับสนุนโครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน บ้านน้ำเย็น หมู่ที่ 2 ตำบลกกสะท้อน อำเภอด่านซ้าย พื้นที่รับประโยชน์ 151 ไร่ ปริมาณเก็บกักน้ำ 0.02 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนรับประโยชน์ 50 ครัวเรือน และการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเลย ระยะที่ 2 จังหวัดเลย เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม/อุทกภัย ลดลง 1,356 ไร่ เป็นต้น
นอกจากนี้จังหวัดเลยยังได้รับงบประมาณ 904.91 ล้านบาท ดำเนินโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2563 อีกจำนวน 55 แห่ง ผ่านทาง 5 หน่วยงาน คือ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และการประปาส่วนภูมิภาค มีพื้นที่รับประโยชน์ 8,544 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 16,677 ครัวเรือน พื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 2,444 ไร่ ปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้นประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม. และป้องกันตลิ่ง 7.862 กิโลเมตร โดยมีโครงการสำคัญๆ เช่น ประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ถึง 72,500 ไร่ ระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเลย ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย เมื่อแล้วเสร็จ จะมีผลสัมฤทธิ์พื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 2,443 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 4,607 ครัวเรือน อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทบ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง ระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ในพื้นที่หาน้ำยาก ตำบลผาอินทร์แปลง อำเภอเอราวัณ เมื่อแล้วเสร็จมีพื้นที่รับประโยชน์ 652 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 87 ครัวเรือน ปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาเลย อำเภอเมืองเลย เมื่อแล้วเสร็จประชาชนได้รับประโยชน์ 6,500 ครัวเรือน เป็นต้น
"ในปีงบประมาณ 2564 จังหวัดเลยยังมีโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตามร่าง พ.ร.บ. ปี 2564 จำนวน 38 โครงการ งบประมาณรวม 945.45 ล้านบาท เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จมีพื้นที่รับประโยชน์ 2,670 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 5,076 ครัวเรือน และเพิ่มความจุเก็บกักน้ำรวม 8 ล้าน ลบ.ม. เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทบ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง เมื่อแล้วเสร็จมีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น 7.43 ล้าน ลบ.ม. ระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยลิ้นควาย ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง งานก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเลย อำเภอเมืองเลย เป็นต้น" นายสมเกียรติกล่าว
เลขาธิการ สทนช. ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดเลยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–31 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนสะสม 260.5 มม. น้อยกว่าค่าปกติ 84.3 มม. หรือประมาณ 24% ทำให้ยังมีหลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำนั้น จังหวัดเลยมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 6 แห่ง มีความจุรวม 101.05 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำเหลืออยู่เพียง 27.82 ล้าน ลบ.ม. หรือ 27.5% ของปริมาณการกักเก็บ ในขณะที่แหล่งน้ำขนาดเล็กและแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีจำนวน 2,346 แห่ง ความจุรวม 39 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีน้ำเหลืออยู่ 14 ล้าน ลบ.ม. หรือ 36% ของปริมาณการกักเก็บ นอกจากนี้สภาพน้ำในลำน้ำเลยยังอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยระดับน้ำในอำเภอเมืองเลย 1.46 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 7.54 เมตร ความจุลำน้ำ 698 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 0.74 ลบ.ม./วินาที หรือ 0.1% ของความจุเท่านั้น