กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--วิทยาลัยดุสิตธานี
วิทยาลัยดุสิตธานี ส่งมอบความรู้ “จัดหลักสูตรอบรมพิเศษให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ในมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” อีกหนึ่งโครงการพิเศษภายใต้แคมเปญ “DTC: The Giving Project”
วิทยาลัยดุสิตธานี หนึ่งในสถาบันการศึกษาเอกชนชั้นนำทางด้านการโรงแรมและการประกอบอาหารของประเทศไทยได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล ที่มีรากฐานการก่อตั้งและเป็นส่วนหนึ่งของในเครือดุสิตธานี กลุ่มโรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาวของเมืองไทย โดย ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รักษาการอธิการบดี นำทีมคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยจัดหลักสูตร “อบรมพิเศษด้านอาหาร” แบบเข้มข้นเจาะลึกให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ในมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาฝีมือทางด้านการปรุงอาหารของเจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการให้ได้รสชาติอร่อยถูกปากเด็กนักเรียน พร้อมคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการด้านอาหารเป็นหลัก
ด้วยปณิธานทางด้านกิจกรรมเพื่อสังคมของกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีอยู่เสมอมาและถูกส่งต่อมายังวิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชำนาญการทางด้านการเรียนการสอนในด้านโรงแรมและการประกอบอาหาร กิจกรรมพิเศษในครั้งนี้จึงได้ถูกจัดขึ้นและถือเป็นหนึ่งในโครงการพิเศษ “DTC: The Giving Project” เพื่อคืนสู่สังคมโดยหลักสูตร “อบรมพิเศษด้านอาหาร” ที่ถูกจัดขึ้นให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการทุกท่านได้เรียนรู้ตั้งแต่ในภาคทฤษฎีไปจนถึงภาคปฏิบัติ โดยเริ่มจากการเข้ามาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีในห้องเรียนภาคทฤษฎีทางด้านการวางแผนอาหารและการคำนวณต้นทุนอาหาร ฝึกสอนโดยดร.วัชรากร มยุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถวางแผนรายการอาหารที่เหมาะสมกับกลุ่มเด็ก ซึ่งจะมีตั้งแต่วัยอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ให้ผู้เข้าอบรมสามารถเขียนสูตรอาหารมาตรฐานเพื่อใช้ในการคำนวณต้นทุนอาหารได้ และสามารถคำนวณต้นทุนอาหารขั้นพื้นฐานได้ ต่อด้วยการเรียนรู้เรื่องของสุขาภิบาลอาหารและความปลอดภัยในการทำงาน ฝึกสอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ด้วยคำนึงว่าอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพ การเจริญเติบโต และอาหารยังเป็นปัจจัยหลักของอาการเจ็บป่วยเช่น ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ภาวะการแพ้อาหาร เป็นต้น เมื่ออดีตการบริโภคอาหารเน้นความอร่อย แต่ในปัจจุบันเพิ่มความสะอาดและความปลอดภัยเข้าไปด้วย โดยผู้ประกอบอาหาร
หรือบุคคลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้เตรียมอาหาร ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ ผู้ลำเลียงอาหาร ผู้ทำความสะอาดภาชนะอุปกรณ์ จะต้องดูแลและส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ
จากนั้นผู้เข้าอบรมก็ได้เรียนรู้พร้อมลงมือปฏิบัติ กับทีมคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากสาขาวิชาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติในห้องครัวทุกขั้นตอนร่วมกับอาจารย์ผู้สอน รวมไปถึงการระดมความคิดร่วมกัน โดยความรู้ที่ถ่ายทอดนั้นเริ่มจากการสอนทำน้ำซอสสำเร็จรูป ซึ่งสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นซอสผัดขี้เมา ซอสสลัดผัก ซอสข้าวผัด ซอสหมักอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ การปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยว สูตรการทำน้ำยำ การสอนทำเมนูอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ต้มข่าไก่ ยำไข่ดาว ข้าวผัดไข่ แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับ แกงส้มผักรวม ผัดสามรส หมูสับทอด แกงเทโพ และไข่ลูกเขย พร้อมด้วยรายการขนมหวาน เช่น ขนมทับทิมกรอบ กล้วยบวดชี ขนมลอดช่อง และขนมสาคูเปียก เป็นต้น
การส่งมอบความรู้ในครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การถ่ายทอดเรื่องการปรุงอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเรียนรู้ในเรื่องของระบบการทำงาน การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ การจัดเก็บดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมไปถึงการจัดเซ็ตเมนูอาหารเพื่อเป็นการง่ายในการปรุงแต่ละวันอีกด้วย
คุณขรรค์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า “การอบรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่เราอยากให้เด็กนักเรียนทุกคนได้ทานอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนมากยิ่งขึ้น เพราะเด็กนักเรียนทุกคนอยู่ในช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต และเขาต้องทานอาหารในโรงเรียนทั้ง 3 มื้อในทุกวัน เราจึงคิดว่าการพัฒนาฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการของโรงเรียน ผ่านการฝึกอบรมแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่ดูแลในส่วนนี้โดยตรงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รักษาการอธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวว่า “วิทยาลัยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดทำหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาฝีมือในครั้งนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายโภชนาการของโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเพท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของเราอยู่แล้ว จึงคิดว่าหลักสูตรนี้ควรจะเป็นการฝึกอบรมบูรณาการความรู้แบบครบวงจรทั้งในภาคทฤษฎีต่าง ๆ ไปจนถึงลงมือปฏิบัติซึ่งเน้นตามหลักการเรียนการสอนและมาตรฐานของวิทยาลัยอย่างเข้มข้น โดยครั้งนี้ถือเป็นการจัดหลักสูตรครั้งที่ 1 ซึ่งวิทยาลัยยังมองถึงอนาคต
ว่าจะมีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนาสำหรับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อีกด้วยเช่นกัน"
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสำนักประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 02 361 7811 - 3 อีเมล pr.pr@dtc.ac.th
หรือที่เว็บไซต์ www.dtc.ac.th