กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ. พริมา มารีน’ หรือ (“PRM”) ประกาศความมั่นใจไตรมาส 2/63 กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมทางทะเล หรือ FSU เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการใช้เรือบริการเต็ม 100% และการปรับค่าบริการขึ้นเฉลี่ย 20% ส่วนกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศทิศทางปรับตัวดีขึ้น หลังภาครัฐทยอยปลดล็อกดาวน์ ดันการขนส่งปิโตรเลียมเพิ่ม มั่นใจภาพรวมครึ่งปีแรกสดใสแน่นอน
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (“PRM”) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 มั่นใจว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยมีปัจจัยมาจากกลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ ธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมทางทะเล หรือ FSU ที่ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและสร้างการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น และมีอัตราการใช้บริการเต็ม 100% ทั้ง 8 ลำ รวมถึงการทยอยปรับราคาค่าบริการกลุ่มเรือดังกล่าวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20% ในไตรมาสนี้
ขณะที่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศนั้น ในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่มีปริมาณความต้องการใช้ปิโตรเลียมภายในประเทศที่ลดลงโดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน แต่ด้วยการบริหารจัดการที่มุ่งรักษาอัตราการใช้เรือให้อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการและสามารถลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ดี ในขณะที่สถานการณ์เดือนมิถุนายนมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน หลังภาครัฐทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้มีปริมาณการใช้และขนส่งปิโตรเลียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าว ประเมินว่าภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรก จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“เราเชื่อมั่นว่าภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 และในครึ่งปีแรกยังมีอัตราการเติบโตที่ดี ซึ่งจะสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้อย่างแน่นอน” นายวิริทธิ์พล กล่าว