กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--ไออาร์ พลัส
บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง หรือ TRITN เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2563 วางแผนขยายธุรกิจ 3 แกนหลักเพื่อ Diversify เป็น Holding Company ประกอบด้วย ธุรกิจด้านวิศวกรรมเฉพาะด้าน ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และธุรกิจอาหารและบรรจุภัณฑ์ โดยล่าสุด TRITN ได้เข้าซื้อหุ้น GLOCON เพิ่มอีก 7% รวมถือหุ้น 20% หวังเสริมแกร่งสร้างรายได้และกำไรในอนาคต
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN เปิดเผยกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2563 ว่าบริษัทฯวางแผนขยายธุรกิจ 3 แกนหลักเพื่อ Diversify เป็น Holding Company ประกอบด้วย
ธุรกิจด้านวิศวกรรมเฉพาะด้าน (Engineering Specialization) เช่น การวางท่อน้ำมันใต้ดิน การวางท่อใต้แม่น้ำเจ้าพระยา และการวางท่อขนาดใหญ่ใต้ถนนหลวงซึ่งเป็นโครงการที่ทำในปัจจุบัน ส่วนธุรกิจที่พิจารณาเสริมเข้าทำจะเป็นธุรกิจระบบไฟฟ้า และระบบอาณัตสัญญาณบนระบบทางรถไฟทั้งระบบ Mass Transit ทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งประเมินแล้วว่าตลาดยังเติบโตและมีขนาดใหญ่และการแข่งขันยังไม่สูงมากนัก ธุรกิจผลิตไฟฟ้า Renewable Energy โดยเลือกลงทุนกับบริษัทที่เชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องนี้ ซึ่งในปี 2562 ได้เริ่มการลงทุนในโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 3 MW ที่หนองรี กาญจนบุรี จ่ายไฟฟ้าแล้ว และลงทุนในโรงไฟฟ้าอัครวัฒน์ไบโอแก๊ส 5 MW ที่สุพรรณบุรี อยู่ระหว่างการก่อสร้างน้ำจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2020 และบริษัทฯ กำลังเตรียมยื่นขออนุมัติโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สชุมชนแบบ Quick Win อีก 2 โครงการรวม 12 MW เร็วๆ นี้ และเตรียมยื่นขออนุมัติโรงไฟฟ้าชุมชนเพิ่มเติมอีกในรอบต่อไป นอกจากนั้นบริษัทฯ กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมส และโรงไฟฟ้าจากขยะเพื่อลงทุนในอนาคต โดยเน้นผลตอบแทนสูงความเสี่ยงต่ำธุรกิจอาหารและบรรจุภัณฑ์ (Food and Packaging) บริษัทฯได้ลงทุน 20% แล้วในกลุ่มบริษัท Glocon ธุรกิจของบริษัท Glocon จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ปี 2562 มีรายได้ 1,200 ล้านบาท ไตรมาส 1/2563 มีรายได้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้มีเป้าหมายรายได้เติบโตในปี 2563 ประมาณ 50% ซึ่งประกอบด้วย 4 ธุรกิจหลัก
(1) ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (Frozen Foods) ส่งบริษัทร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) ขนาดใหญ่ และสินค้าประกอบอาหารแช่แข็งส่งออก
(2) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อน และพลาสติก
(3) ธุรกิจร้านอาหารแบบ Quick Service Restaurant ภายใต้ชื่อ A&W และ Kitchen Plus
(4) ธุรกิจผลไม้อบแห้งเพื่อส่งตลาดต่างประเทศเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก
โดยสรุปแล้วบริษัทฯ มีนโยบายกำไรลงทุน (Investment Philosophy) แบบจำกัดความเสี่ยงและเน้นการสร้างรายได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ (Repeatable income) และผลตอบแทนการลงทุนในระดับปานกลางถึงสูงในระยะยาว และเน้นการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเป็นหลัก