![สมัครเลย!]()
กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--เอเชียไลฟ์มีเดีย (ประเทศไทย)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA ชวนผู้ประกอบการ
เอสเอ็มอีใน
ภาคใต้ ภาคตะวันออก และ
ภาคเหนือ ร่วมโครงการสร้าง
SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (
ต้นกล้า ทู โกล) ประจำปี 2563 ดึงสุดยอดกูรูการค้าระหว่างประเทศติวเข้มเพิ่มศักยภาพ
เอสเอ็มอีท้องถิ่น เดินหน้าหาตลาดใหม่ในยุค New Normal พร้อมเดินหน้าอบรมแบบไฮบริด (ออนไลน์และออฟไลน์) เริ่มอบรม
ภาคใต้ระยะแรก 23 มิถุนายนนี้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า COVID-19 สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อทุกวงการ ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาทำกิจกรรมต่างๆทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น กรมฯ จึงต้องปรับนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการเช่นกัน เพื่อตอบรับเทรนด์ดังกล่าว เช่น การจัดแสดงสินค้าออนไลน์ (Online Trade Show) การเจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) การสัมมนาออนไลน์ในระบบ webinar เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย กรมฯก็พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมแบบออฟไลน์ต่อไป ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่ต่างๆ โดยหลังจากเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการอย่างดีแล้ว เราก็จะพาผู้ประกอบการไปเปิดตลาดใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วย
"แต่ละพื้นที่ต่างมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ดีมีคุณภาพ แต่บางส่วนอาจยังไม่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เราจึงจัดโครงการ
ต้นกล้า ทู โกล ปีที่ 9 เพื่อเสริมศักยภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้สามารถขยายตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า สถาบันฯ ดำเนินกิจกรรมตามนโยบาย "Sharing Economy" หรือเศรษฐกิจแบ่งปัน ของรัฐบาล เพื่อช่วยให้คนไทยทุกระดับทั่วประเทศเข้าถึงองค์ความรู้แบบทันสถานการณ์ได้อย่างทั่วถึง รวมถึงผลักดันผู้ประกอบการท้องถิ่น (Local) ให้หาโอกาสใหม่ในตลาดโลก (Global) ด้วยการช่วยให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้จากคนที่เก่งหรือมีประสบการณ์มากที่สุด โดยปีนี้จะรับสมัครผู้ประกอบการและคนทั่วไปที่สนใจทำธุรกิจระหว่างประเทศจากพื้นที่
ภาคใต้ ภาคเหนือ และ
ภาคตะวันออก เข้าร่วมโครงการ
ต้นกล้า ทู โกล
"ผู้ประกอบการจะได้พบกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในแวดวงธุรกิจระหว่างประเทศที่จะมาอัปเดตความเคลื่อนไหวและความเป็นไปด้านการค้าโลก และแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจ พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึกแบบตัวต่อตัว ช่วยให้ผู้ประกอบการได้วางแผนธุรกิจ ใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบช่องทางจัดจัดหน่าย และขยายธุรกิจด้วยรูปแบบออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ทั้งนี้ โครงการ
ต้นกล้า ทู โกล แบ่งการอบรมเชิงปฏิบัติการเป็น 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจและเสริมสร้างความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ รับผู้อบรม 450 คน ทั้งผู้ประกอบการ และผู้สนใจทั่วไป โดยจะคัดเลือกนิติบุคคลรวม 45 ราย ที่มีสินค้าจริงเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2-4 ต่อไป
ระยะที่ 2 กิจกรรมให้ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ วิธีการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์และการจัดทำแผนธุรกิจ จะมีการบรรยาย ทำ workshop การทำแผนธุรกิจ เพื่อส่งประกวดรางวัลแผนธุรกิจสร้างสรรค์
ระยะที่ 3 กิจกรรม coaching ให้ความรู้ คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์รายบริษัท เพื่อให้นำความรู้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งประกวดรางวัลบรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์ และจำหน่ายจริงต่อไป
ระยะที่ 4 กิจกรรมเจรจาธุรกิจ ( business matching) ระหว่างบริษัทที่ผ่านการอบรมกับผู้ซื้อรายใหญ่ เช่น กลุ่มเซ็นทรัล คิงพาวเวอร์
โดยระยะเวลาดำเนินโครงการสำหรับผู้ประกอบการ
เอสเอ็มอีภาคใต้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม 2563
ภาคตะวันออก เริ่มวันที่ 14 กรกฎาคม ถึง 31 กรกฎาคม และ
ภาคเหนือ เริ่มวันที่ 3 สิงหาคม ถึง 20 สิงหาคม และวันปิดโครงการ 28 สิงหาคม 2563 จะมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ มอบประกาศนียบัตร และมอบรางวัลแผนธุรกิจสร้างสรรค์และรางวัลบรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมและได้รับรางวัล
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 064 196 2469 และ 02 507 8128 โดย
ภาคใต้จะปิดรับสมัครในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ส่วน
ภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกจะเริ่มสมัครในเร็วๆ นี้ สามารถติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊กของสถาบัน NEA:facebook.com/nea.ditp/ และเว็บไซต์ https://nea.ditp.go.th/contactus