กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด
ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด เติบโตต่อเนื่อง การันตีด้วยยอดสมาชิกบัตรที่แตะเกิน 1 หมื่นราย พร้อมโชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก (ปีงบประมาณ 2563) กวาดรายได้จาการขายบัตรสมาชิกรวมอยู่ที่ 871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจโชว์ความแข็งแกร่งพร้อมรุกเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 คลี่คลาย นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิก ไทยแลนด์ อีลิท เผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกออกมาเป็นที่น่าประทับใจ ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ของบริษัทฯ จากยอดสมาชิกบัตรใหม่จำนวนกว่า 1,700 ราย ตั้งแต่ตุลาคม 2562 – พฤษภาคม 2563 ส่งผลให้มีจำนวนสมาชิกในระบบสูงถึงกว่า 10,000 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563) และผลประกอบการครึ่งปีแรก ที่มีรายได้จากการขายบัตรสมาชิกรวมอยู่ที่ 871 ล้านบาท ยอดเติบโต 30.37% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
แม้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งสะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนภายในที่มีประสิทธิภาพ และการยอมรับจากลูกค้าของบริษัท ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของบริษัท ขณะเดียวกันได้มีการเน้นการทำตลาดแบบเชิงรุกหวังดันยอดผลประกอบการสิ้นปีสูงขึ้นกว่าเดิม
หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 คลี่คลาย เรามุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุก โดยเป้าหมายหลักที่เราให้ความสนใจในการทำตลาดนั้นคือ กลุ่มนักท่องเที่ยว “FIT” (Free and Independent Traveler) ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง มีอิสระในการจัดรูปแบบการเดินทางด้วยตัวเอง และสามารถยืดหยุ่นเวลาการเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามต้องการแบบไม่จำกัดเวลา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
ซึ่งประเทศไทยจัดว่าเป็นเป้าหมายหลักเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับประเทศในกลุ่มธุรกิจที่พักโรงแรม ธุรกิจรถเช่า และธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีอิสระในการเลือกใช้จ่ายได้ตามความต้องการ ทำให้มีการใช้จ่ายเงินในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สอดคล้องกับแผนการท่องเที่ยวตามแผนการฟื้นฟู เพื่อรองรับการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ (New Normal) ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพความสะอาด และความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้าน แก่นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างมีความสุข และนอกจากนี้ เราได้ออกมาตรการเยียวยาสมาชิกบัตร ไทยแลนด์ อีลิท ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ด้วยการขยายสิทธิอายุสมาชิกด้านวีซ่า และสิทธิประโยชน์ตามแพคเกจของบัตรแต่ละประเภท เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยมาตรการนี้ได้เริ่มเปิดให้สมาชิกลงชื่อเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการดูแลสมาชิกฯ ในช่วงที่พำนักอาศัยในประเทศไทยและจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลายประเทศ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว แต่ในทางกลับกันประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับความน่าเชื่อถือในด้านต่างๆ ทั้งจาก US. News & World Report สำนักข่าวจากสหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่ข่าว และผลการจัดอันดับต่างๆ ที่ได้รับความนิยม โดยเปิดเผยการจัดอันดับประเทศที่เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก ประจำปี 2563 หรือ Best Countries to Start a Business 2020 จากการสำรวจผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจตัดสินใจในการลงทุนของธุรกิจต่างๆ จำนวน 6,000 ราย พบว่า ประเทศไทยนั้นติดอันดับ 1 ของโลก ประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจจากทั้งหมด 73 ประเทศ ซึ่งผลการจัดอันดับนี้ส่งผลให้เศรษฐีต่างชาติเห็นตรงกันว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย และกำลังตัดสินใจย้ายมาพำนักอาศัย เนื่องจากมีระบบการดูแลรักษาทางการแพทย์ และการพยาบาลที่ดี นับเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติเข้ามาหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ที่ล่าสุดบุคลากรทางการแพทย์ของเราได้ทำการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 หายแล้วกว่า 97% จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากในการป้องกัน และรักษาโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมกับที่ได้รับการจัดอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ประเทศที่มีความมั่นคงด้านสาธารณสุข จากแหล่งข้อมูลของ มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการสำรวจวิจัยจาก 195 ประเทศทั่วโลกเมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา และเมื่อเร็วๆ นี้ประเทศไทยยังติดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในการฟื้นตัวจาก โควิด-19 โดยอยู่อันดับ 2 ของโลก จาก 184 ประเทศทั่วโลก จากการจัดอันดับของ Global COVID -19 Index (GCI) รองจากประเทศ ออสเตรเลีย
นายสมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ไทยแลนด์ อีลิท ยังคงพร้อมเป็นอีกส่วนหนึ่งฟันเฟืองในการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของกลุ่มเป้าหมาย ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจาก โควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม โดยคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะพำนักอาศัยในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานให้มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า รวมถึงการนำเสนอบัตรในหลายรูปแบบให้ตรงกับความต้องการ พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อนำมาตอบสนองความต้องการให้แก่กลุ่มสมาชิกบัตร ไทยแลนด์ อีลิท เช่น การให้บริการที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง การให้บริการอำนวยความสะดวกในการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด ให้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองที่ต้องการพำนักอาศัยในประเทศไทย