กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--แอร์เอเชีย
AAV ได้รับการจัดอันดับกลับขึ้นสู่ดัชนีหุ้น SET100 อีกครั้ง และยังคงติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment-THSI: SETTHSI) จากการประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงครึ่งปีหลังจากปี 2563 (1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563)
ทั้งนี้ การที่ AAV ได้รับพิจารณาคัดเลือกให้กลับขึ้นไปติดอันดับ SET100 แสดงถึงการเป็นหุ้นพื้นฐานดี อีกทั้งยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่เห็นถึงศักยภาพ การปรับตัว และโอกาสการเติบโตในอนาคตของธุรกิจสายการบิน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ AAV ได้กลับขึ้นสู่ดัชนี SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราเริ่มกลับมาให้บริการเส้นทางบินต่างๆ อีกครั้ง หลังจำเป็นต้องหยุดให้บริการชั่วคราวในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา เราสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวตามสถานการณ์ ควบคู่การแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เชิงรุกอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากนี้เราเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ต่างๆ จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และทำให้ AAV เป็นหุ้นที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุน
“เราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างดี ทั้งการสร้างโอกาสในธุรกิจ การใช้นวตกรรมเทคโนโลยี และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น” นายสันติสุขกล่าว
ทั้งนี้หลังไทยแอร์เอเชียเริ่มทยอยกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศ ควบคู่มาตรการด้านสุขอนามัยที่ปลอดภัยสูงสุด เราได้รับสัญญาณที่ดีทั้งจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ การร่วมแรงร่วมใจกันของภาคเอกชน รวมทั้งความร่วมมือจากผู้ใช้บริการทุกคน ทำให้วันนี้เราสามารถปรับเพิ่มเที่ยวบินตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม AAV ยังรักษามาตรฐาน โดยติดอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ SETTHSI ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตที่ทำให้เห็นว่าการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตั้งแต่ภายในสามารถทำให้บริษัทสามารถประคองการดำเนินธุรกิจมาได้ในระยะยาว อีกทั้ง AAV ยังอยู่ในรายชื่อของการพิจารณาขึ้นสู่ดัชนี SET Well-being (SETWB) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 หลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจอีกด้วย