กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
SYNQA บริษัทฟินเทคในประเทศไทย (ชื่อเดิม Omise Holdings) ประกาศรับเงินลงทุน Series C มูลค่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผู้ลงทุนหลัก SCB 10X Co., Ltd. (SCB 10X) และ SPARX Group Co., Ltd. (ผ่านกองทุน Mirai Creation Fund II) ร่วมด้วยToyota Financial Services Corporation (TFS), Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC), SMBC Venture Capital (SMBCVC) และ Aioi Nissay Dowa Insurance Corporation (ADI) และผู้ลงทุนรายอื่น ๆ
เงินลงทุนที่ได้รับมานี้มีแผนที่จะนำไปใช้พัฒนาโซลูชันสำหรับองค์กร (enterprise solution) รวมถึงต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ได้ (digital transformation) โดย SYNQA ตั้งใจที่จะเพิ่มบทบาทในกลุ่มประเทศที่เป็นสังคมไร้เงินสดในเอเชีย ในช่วงที่การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเรื่องสำคัญเช่นทุกวันนี้โครงสร้างเทคโนโลยีทางการเงิน (fintech infrastructure) อย่างระบบรับชำระเงินออนไลน์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงินด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบายอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ผมมีความยินดีที่จะประกาศข่าวการระดมทุนรอบนี้และความร่วมมือใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ทุกท่านทราบ แม้เราจะอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย ผมมองว่านี่เป็นโอกาสดีในการเร่งปรับเอาระบบรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในองค์กรใหญ่ ๆ (digital transformation) เงินลงทุนในรอบนี้จะนำไปสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทย่อยของเรา เพื่อให้คน ธุรกิจ และสังคม สามารถเชื่อมถึงกันได้ดีมากขึ้น ผมมีความเชื่อว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ คือ ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างทางการเงินที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” คุณจุน ฮาเซกาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNQA กล่าว
SYNQA มองว่าโลกภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมของคน โดยความนิยมในการใช้จ่ายด้วยเงินสดลดลง และเปลี่ยนเป็นช่องทางดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ผลสำรวจโดย Nielsen พบว่าในประเทศสิงคโปร์ยอดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค (Fast Moving Consumer Goods หรือ FMCG) ผ่านทางออนไลน์เติบโตขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (2563) SYNQA อยู่ในจุดที่มีศักยภาพโดดเด่น สามารถที่จะนำพาเอเชียเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมไร้เงินสดได้ Omise เป็นบริษัทย่อยที่อยู่ภายใต้การดูแลของ SYNQA เป็นผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินชั้นนำก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการร้านค้านับพันรายทั่วเอเชียโดยให้บริการเทคโนโลยีและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการค้าขายออนไลน์ ช่วยทั้งด้านการรับชำระเงิน และเชื่อมร้านค้าเข้ากับผู้บริโภคนับล้านทั่วโลก เงินลงทุนครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ของ Omise เพื่อเพิ่มคุณค่าที่ส่งมอบให้กับร้านค้าและธุรกิจทั่วเอเชีย
การระดมทุนในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือที่มั่นคงระหว่าง SYNQA และผู้ร่วมลงทุน คือ SCB 10X, SPARX, TFS, SMBC, SMBCVC และ ADI ในการนำเทคโนโลยีจากบริษัทย่อยภายใต้ SYNQA ไปปรับใช้กับแต่ละองค์กร และยังตอกย้ำการมีส่วนร่วมในการนำพาเอเชียไปสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดของ SYNQA อีกด้วย เงินลงทุน Series C นี้ยังจะถูกนำไปใช้จัดตั้งบริษัทย่อยอีกหนึ่งแห่งภายใต้การดูแลของ SYNQA ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาโซลูชันเพื่อองค์กรที่ต้องการนำเทคโนโลยีด้านการเงินไปปรับใช้ (fintech transformation) โดยเฉพาะ
“SCB 10X มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรกับ SYNQA ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสององค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้องค์กรหรือผู้ประกอบการต่าง ๆ สามารถปรับรูปแบบและทำธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต” ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB 10X กล่าว
บริษัทย่อยภายใต้ SYNQA มีความยินดีที่จะได้นำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้ง API และ OMG Network ซึ่งเป็นเครือข่ายสำหรับการแลกเปลี่ยนมูลค่าสร้างอยู่บนบล็อกเชน Ethereum ไปต่อยอดเป็นโซลูชันใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าของพาร์ทเนอร์ได้ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ SYNQA เช่น แอปพลิเคชัน Toyota Wallet เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่มีต่อการลดอุปสรรครูปแบบเดิม ๆ ในการทำธุรกรรมออกไป ความร่วมมือใหม่ ๆ รวมถึงเงินลงทุนที่ได้รับมานี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ของ SYNQA ให้แข็งแรงขึ้นเพื่อพาองค์กรไปสู่วิสัยทัศน์และเป้าหมายที่วางไว้
เกี่ยวกับ SCB 10X
บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมพานี ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ภายใต้ภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่าน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Venture Capital, Venture Builder และ Strategic Investment and Partnership นอกจากนี้ SCB 10X ยังทำหน้าที่ดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท มันนิกซ์ จำกัด และบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีที่จะจัดตั้งหรือลงทุนในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ contact@scb10X.com
เกี่ยวกับ SPARX Group
SPARX Group Mirai Creation Fund I ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นมูลค่า 13.5 พันล้านเยนจาก 3 บริษัท คือ Toyota Motor Corporation, Sumitomo Mitsui Banking Corporation และ SPARX Group Co.Ltd., ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักของกองทุน นับตั้งแต่ก่อตั้ง Mirai Creation Fund I และ II ได้เข้าลงุทนในธุรกิจและโปรเจ็คกลุ่มเทคโนโลยีอัจฉริยะ (intelligent technologies), อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (robotics), เทคโนโลยีเศรษฐกิจไฮโดรเจน (hydrogen-economy technologies), พลังงานไฟฟ้า (electrification) และอุตสาหกรรมวัสดุใหม่ (new materials) รวมกว่า 50 โครงการ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mirai Creation Fund ได้ที่ https://mirai.sparx.co.jp/en/investment/
เกี่ยวกับ SYNQA
SYNQA เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีความเชี่ยวชาญในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะด้านระบบรับชำระเงินออนไลน์, เทคโนโลยีบล็อกเชนในฟินเทค และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในธุรกจิ (digital transformation) พันธกิจของ SYNQA คือ การเชื่อมโยงผู้คน องค์กรธุรกิจ และสังคม ผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ โดยมุ่งที่จะกระจายโอกาสทางการเงินและทำให้การเข้าถึงระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ (economic ecosystem) ที่กำลังเติบโตขึ้นมีความเปิดกว้างและเป็นธรรม สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ SYNQA เพิ่มเติมได้ที่ www.synqa.co หรือติดตามบนทวิตเตอร์